LUCIFER SEASON 5 (2020) ลูซิเฟอร์ ยมทูตล้างนรก ปี 5

LUCIFER SEASON 5 (2020) ลูซิเฟอร์ ยมทูตล้างนรก ปี 5 Netflix ลูซิเฟอร์ พักร้อนแล้วรับบทนักสืบ เรื่องดัดแปลงจากตัวละครใน DC Comic โดยเรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อ ลูซิเฟอร์ มอร์นิ่งสตาร์ หรือที่เรารู้จักกันในอีกชื่อคือ ซาตาน ราชาแห่งขุมนรก กลับรู้สึกเบื่อหน่ายภารกิจปกครองนรก จึงตัดสินใจขึ้นมาพักร้อนอยู่บนโลกมนุษย์

ระหว่างนั้นลูซิเฟอร์ได้มาเปิดบาร์สุดหรูอยู่ในลอสแอนเจลิส แล้วเขาก็ได้พบกับ โคลอี้ เดคเกอร์ ตำรวจนักสืบสาวไฟแรงผู้รักความยุติธรรม เขาก็เกิดความสนใจเธอเป็นพิเศษ แล้วก็ได้นำพลังของจอมปีศาจเข้ามาช่วยในการไขคดีฆาตกรรมและคดีปริศนาที่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ทั้งลูซิเฟอร์ก็พบว่าโคลอี้เป็นมนุษย์คนเดียวที่เขาไม่สามารถใช้พลังของตนได้ แล้วเขาก็เริ่มเกิดความผูกพันกับโคลอี้มากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีบรรดาทูตสวรรค์และปีศาจที่เข้ามาสร้างความวุ่นวายในเมืองและรอบตัวเขาเพิ่ม ทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆตามมา

สำหรับซีซัน 5 เป็นการกลับมาเพื่อเดินเรื่องไปสู่บทสรุปของเรื่องราวทั้งหมดที่ปูมาตั้งแต่ตอนแรก แถมยังมีตัวละครใหม่ที่มีความสำคัญมากกับเรื่องอย่าง “เทวดาไมเคิล (มิคาเอล)” พี่ชายฝาแฝดของลูซิเฟอร์ ที่เป็นตัวการสำคัญของเรื่องอย่างคาดไม่ถึงด้วย

เรื่องราวในซีซันล่าสุด เมื่อลูซิเฟอร์จำเป็นต้องอยู่ปกครองนรก ควบคุมเหล่าปีศาจ แต่กลายเป็นว่าพี่ชายที่หน้าตาเหมือนเขาคือ “ไมเคิล หรือ มิคาเอล” อัครทูตสวรรค์ ได้ลงมาบนโลกแล้วคิดจะแย่งชิงชีวิตของลูซิเฟอร์บนโลกไป ซึ่งตามความเชื่อในไบเบิล ไมเคิล คือผู้ปราบลูซิเฟอร์ในสงครามก่อกบฏนั่นเอง (แต่ในซีรีส์เหมือนจะปรับบทตรงนี้ใหม่)

ในซีซันนี้ยังมีการเล่นกับพลังของพวกเทวดาตามความเชื่อเดิมในแง่ที่ว่า เทวดาสามารถดลใจให้มนุษย์กระทำสิ่งต่างๆ ได้ จึงนำมาสู่พลังการยั่วยุและกระตุ้นความกลัวของมนุษย์ของตัวไมเคิลเอง แล้วเรื่องราวยังเฉลยว่า แท้จริงแล้วเทวดาไมเคิลนี่เองที่อยู่เบื้องหลังการขึ้นมาใช้ชีวิตบนโลกของลูซิเฟอร์ตั้งแต่ตอนแรกเริ่มเลย

เส้นเรื่องอื่นๆ ก็น่าสนใจ เช่น เรื่องของอเมนาเดียลและลินดาที่มีลูกชายด้วยกัน ทำให้อเมนาเดียลในซีซันนี้ลดความดุดันลงไปเยอะ กลายเป็นคุณพ่อมือใหม่ ส่วนลินดาก็ยังคงรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและจิตแพทย์ให้กับก๊วนอมนุษย์ต่อ

เส้นเรื่องรองอีกเส้นที่ดูไม่สำคัญ แต่กลับมีผลกระทบต่อเรื่อง นั่นคือบทของเมซิคีน ที่ในซีซันนี้เธอมารับหน้าที่นักล่าค่าหัว ทำงานร่วมกับโคลี้ และก็ยิ่งเพิ่มความสนิทสนมกับลินดาเพิ่มเข้าไปอีก แต่ความสัมพันธ์กับลูซิเฟอร์กลับมีรอยร้าวอย่างรุนแรง แล้วยังมีเปิดเผยเรื่องราวของ ลิลิธ ราชินีและมารดาของเหล่าปีศาจหญิงทั้งหมด (ลิลิธในไบเบิลคือพี่สาวของอีฟ แต่ถูกขับไล่ออกไปจากสวรรค์)

สำหรับภาพรวมในซีซัน 5 เราจะพบว่ามีเนื้อหาที่ “ก้าวไปข้างหน้า” แทบจะมากที่สุดในทุกซีซัน ตรงนี้คาดว่าอาจเพราะเดิมทีเคยมีข่าวว่านี่จะเป็นซีซันสุดท้ายแล้วนั่นเองหลังจากซีซัน 6 จะถูกแคนเซิล แต่ด้วยความดังของซีรีส์นี้ทำให้มีการเรียกร้องให้สร้างซีซัน 6 ต่อ ซึ่งคงต้องรอดูกันว่า สุดท้ายแล้วเรื่องทั้งหมดจะจบที่ซีซันนี้หรือไปจบที่ซีซัน 6 อย่างที่ทีมสร้างตั้งใจไว้ 

ภาพรวมแล้ว ซีซัน 5 ยังคงมีแนวทางการเล่าเรื่องในแบบสืบสวนจบในตอนสไตล์ คล้ายซีรีส์อย่าง CSI หรือ The Mentalist แล้วใส่ตำนานเทพและปีศาจในไบเบิลเข้ามาเป็นตัวสร้างสีสัน รวมถึงดราม่าตัวละครในแบบที่จงใจจับเรื่องใกล้ตัวคนเรา แล้วผสมผสานกับเรื่องแนวรักๆ ใคร่ๆ โรมานซ์ๆ ที่น่าจะดึงดูดคนดูสาวๆ ได้ดี เพราะตัวละครเรื่องนี้เต็มไปด้วยคนหล่อสวย โดยเฉพาะตัวของลูซิเฟอร์ที่ชวนดึงดูดสายตาเอามากๆ แต่ในด้านเนื้อหาเองก็มีเส้นเรื่องใหญ่ที่น่าติดตามในแบบที่ก็ไม่ได้เคร่งเครียดเกินไป

LUCIFER SEASON 5 (2020)

ใครยังไม่เคยดู แนะนำให้ดูเรื่องนี้ได้เลย แล้วคุณจะรู้ว่าทำไมนี่จึงเป็นซีรีส์ดังที่มีผู้ชมเคยร่วมกันลงรายชื่อขอไม่ให้แคนเซิลไปก่อนมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ส่วนแฟนคลับเรื่องนี้ไม่ควรพลาด เพราะตอนท้ายของพาร์ทแรกในซีซัน 5 มีการปิดท้ายเรื่องได้โหดมาก

รับชม LUCIFER SEASON 5 (2020) ลูซิเฟอร์ ยมทูตล้างนรก ปี 5 ได้ใน ดูหนังออนไลน์ฟรี

GET EVEN SEASON 1 (2020) แก้เกมแค้น

Get Even เป็นซีรีส์แนวไฮสคูลเมื่อกลุ่มสาวๆ ที่บุคลิกแตกต่างกันสุดขั้ว แต่มาจับมือกันเพื่อเอาคืนพวกที่ชอบ Bully คนอื่น ทั้งนักเรียนด้วยกันเอง ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณครู เพื่อแก้ให้ปัญหากลั่นแกล้งในรั้วโรงเรียนหมดไป แต่แล้วก็เกิดเหตุใหญ่เป็นการฆาตกรรมเสียได้ สาวๆ ทั้ง 4 ถูกดึงเข้าไปพัวพันด้วย พวกเธอจึงต้องสืบหาว่า ใครคือคนร้ายตัวจริงของคดีในครั้งนี้

เรื่องย่อ : GET EVEN SEASON 1 (2020) แก้เกมแค้น

แบนเนอร์ โรงเรียนไฮสคูลแบบอีลิท (ลูกคนรวย) ที่ภายนอกนั้นก็ดูเหมือนโรงเรียนดีๆ สักที่หนึ่ง แต่ภายในนั้นกลับเต็มไปด้วยพวกที่ชอบกลั่นแกล้ง Bully นั่นนี่เต็มไปหมด แต่แล้วคนนิสัยไม่ดีพวกนั้นต้องคิดหนัก เมื่อพวกเขาอาจจะโดนเอาคืนด้วยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า DGM.

กลุ่ม DGM (Don’t Get Mad) นั้น จะเป็นกลุ่มที่เปิดโปง และเอาคืนกับทั้งนักเรียนที่ชอบแกล้งคนอื่น แม้กระทั่งอาจารย์ที่นิสัยแย่ ซึ่งเป็นเหมือนกับกลุ่มศาลเตี้ยภายในโรงเรียนที่คอยกำจัดคนชั่วอย่างไงอย่างงั้น ด้วยการเอาคืนแต่ละครั้ง มันก็ค่อนข้างที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับกลุ่มพอสมควร แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมเด็กนักเรียนเกเรคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าพวกกลุ่ม DGM ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนฆ่าหรือเปล่า หรือพวกเขาโดนใส่ร้าย กลุ่ม DGM ตัวจริงต้องหาทางไขคดีและเรียกคืนชื่อเสียงของกลุ่มว่าพวกเขาไร้มลทินให้ได้

แท้จริงแล้ว กลุ่ม DGM หลายๆ คน ก็คิดไปว่า อาจจะเป็นแค่คนๆ เดียว หรือเป็นผู้ชาย แต่จริงๆแล้ว กลุ่มนี้เป็นการรวมตัวของนักเรียนหญิงทั้ง 4 คน ที่อยู่คนละสังคมในโรงเรียน และต่างกันสุดขั้ว ภายนอกดูเหมือนไม่รู้จักกัน แต่แท้จริงแล้วพวกเธอคือกลุ่ม DGM ตัวจริง

ในกลุ่ม ประกอบไปด้วย คิตตี้ สาวเชื้อสายเอเชีย เป็นทั้งนักกีฬา และเด็กตั้งใจเรียน ตามสไตล์ครอบครัวเอเชีย มาร์โกส์ สาวอเมริกันสุดเฉิ่มและเนิร์ด ผู้อยู่ท้ายสุดของห่วงโซ่อาหารภายในรั้วโรงเรียน (คนประเภทที่ถูกแกล้งบ่อยๆ) บรี เด็กสาวต่อต้านสังคม นิสัยห้าวๆ แบบชาวร็อค ออกแนวหัวขบฐ แต่คุณพ่อเธอก็เป็นผู้อุปถัมป์โรงเรียน (ลูกคนรวยเส้นใหญ่) โอลิเวีย สาวสุดป๊อปแห่งโรงเรียน ภายนอกอาจจะดูเป็นลูกคุณหนู แซ่บๆ แรงๆ แต่จริงๆแล้ว เธอไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นซะทีเดียว

ด้วยการรวมตัวกันของสาวๆ ที่ทั้งนิสัย สังคมและเพื่อนต่างกันมาก แต่ต้องมานัดพบกันเพื่อสืบหาความจริงบางอย่าง แต่ก็ต้องไม่ให้พวกคนในโรงเรียนรู้ด้วยว่าพวกเธอสนิทกัน ทั้งที่นิสัยและบุคลิคไม่น่าจะเข้ากันได้ มันเลยเป็นการติดต่อสื่อสารกันแบบลับๆ เช่นเดินชนกันบ้าง แกล้งทำเป็นไม่รู้จักกัน เพื่อปกปิดตัวตนไม่ให้เป็นที่สังเกต

ด้วยคาแรคเตอร์ที่ต่างกัน พอมารวมทีมแล้วทำภารกิจ แต่ละคนเลยมีหน้าที่แยกกันชัดเจนว่าทำอะไรกันบ้าง คิตตี้คือหัวหน้างาน เน้นวางแผนให้เพื่อน มาร์โกส์ สาวเนิร์ด ทำหน้าที่แผนก IT เน้นล้วงความลับด้วยเทคโนโลยี บรี สาวชาวร็อคที่จะเป็นตัวเนียน คอยย่องเบาเข้าไปล้วงความลับ และโอลิเวีย ด้วยความสวยของเธอ เลยกลายเป็นตัวที่ทำหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจได้ดีมาก มันเลยดูสนุกในตอนที่พวกเธอมารวมกันเพื่อสืบคดี

โดยรวมแล้ว นี่เป็นอีกเรื่องที่ดูเพลินมาก ด้วยตัวละครแต่ละตัวที่ต้องบอกเลยว่า มีเสน่ห์ (โอลิเวียสวยมาก) ธีมเรื่องที่คล้ายๆ กับฮีโร่สวมหน้ากาก ผสมผสานกับชีวิตในรั้วไฮสคูล ทำให้มันค่อนข้างที่พอดี กลมกล่อมกัน แต่มันก็ไม่ได้เข้มข้น ถ้าหากใครโหยหาแนวนั้น เรื่องนี้คงให้คุณไม่ได้ แต่ถ้าชอบเรื่องราวความรักกุ๊กกิ๊ก ในแบบที่มีมิติ ไม่แบนราบเรียบภายในรั้วโรงเรียน ดูชิลๆ เรื่องนี้ก็อาจจะใช่สำหรับคุณ

รับชม Get Even แก้เกมแค้น ที่ ดูซีรี่ย์ แล้ววันนี้

Sex Education season 2

          เรื่องต่อจากซีซั่นที่ 1 หลังจากที่โอทิสสามารถปลดล็อคการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้ ทำให้เขาหมกมุ่นอยู่กับมันจนไม่สามารถควบคุมร่างกายและความคิดของตัวเองได้ เป็นต้นเหตุทำให้เขาคิดว่าตนเองผิดปกติ

          ตอนแรกของซีซั่นนี้ เริ่มจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในโรงเรียนที่มีข่าวออกไปว่าโรคหนองในเทียมกำลังแพร่ระบาดและติดต่อผ่านอากาศ ทั้งๆที่ความจริงแล้วโอทิสยืนยันว่าโรคนี้เป็นโรคติดทางเพศสัมพันธ์ ต้องมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีเชื้อเท่านั้นถึงจะติด

          ในซีซั่นนี้จะเห็นได้ว่าเนื้อเรื่องจะให้ความสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์มากขึ้น การพูดคุยกันอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องความชอบ ความต้องการไม่ว่าจะเรื่องเซ็กส์หรือการใช้ชีวิตของโอทิส เรื่องนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักยืนยาว และไม่ลืมที่จะลองอะไรที่แปลกใหม่เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับชีวิตคู่

          หากเป็นความสัมพันธ์ที่ชั่วข้ามคืนเหมือน รูบี สาวสวยดีกรีดาวโรงเรียน ที่ถูกเมาท์ว่าเมาเละเทะหลังปาร์ตี้ และไปมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่เธอจำไม่ได้ว่าใส่ถุงยางอนามัยหรือเปล่า และไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยที่จะเข้าไปร้านขายยาเพื่อซื้อยาคุมฉุกเฉิน

          เซ็กส์ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คนเรามีโอกาสเสียบริสุทธิ์แค่ครั้งเดียว ในครั้งแรกที่เราไม่มีประสบการณ์เราไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าผลจะออกมาในทิศทางไหน ด้วยความที่แต่ละคนมีความสุขทางเพศด้วยวิธีที่แตกต่างกันออกไป มันไม่มีกฎเกณฑ์ระบุว่าแบบไหนถูกแบบไหนผิด ไม่มีนิยามตายตัว

เรื่องราวความรัก ความใคร่ที่คุณอาจหาไม่ได้จากห้องเรียน ติดตามดูซีรี่ย์ Sex Education Season 2 ได้ที่ movie2ufree.com

Star Trek: Discovery

           Star Trek: Discovery ซีรี่ย์ล่าสุดจาก Star Trek หนึ่งในซีรี่ย์และภาพยนตร์ไซไฟอวกาศระดับตำนาน ที่เป็นแรงบันดาลใจ และแบบอย่างให้กับซีรี่ย์และภาพยนตร์หลายเรื่อง แม้กระทั่งเทคโนโลยีหลายอย่างในยุคปัจจุบันก็ได้รับแรงบันดาลใจ และอิทธิพลจากซีรี่ย์นี้เช่นกัน

Star Trek: Discovery vkvi

The time before ‘Original’

           Discovery คือเรื่องราวช่วง ‘10 กว่าปีก่อน Original Series’ หรือเอาแบบสั้นๆ ก็คือ ช่วงก่อนเรื่องราวการสำรวจอวกาศของกัปตันเคิร์ก และยาน USS Enterprise แต่ใช่ว่าเรื่องราวจะเกิดขึ้นห่างไกลยุคนั้นเหมือน Star Trek: Enterprise เรื่องราวการสำรวจอวกาศครั้งแรกของมนุษยชาติกับยาน NX-01 Enterprise ของกัปตันโจนาธาน อาเชอร์(100 ปีก่อนกัปตันเคิร์ก)… เพียงแค่ ‘ช่วงเวลานี้’ ผู้รับตำแหน่งกัปตันของยาน USS Enterprise คือคริสโตเฟอร์ ไพค์ กัปตันมาดเข้มจากตอน Pilot ‘The Cage’

Star Trek Discovery Vkvi

           เรื่องราวใน Discovery จะเกิดในช่วงรอยต่อ 10 กว่าปีนั้น ทำให้มีการพูดถึงตัวละครใน Original Series อยู่บ้าง เทคโนโลยีหลายอย่างจะมีเหมือนใน Original Series เพียงแค่ปรับโฉมใหม่ให้ดูตื่นตาขึ้นตามงบประมาณ และงาน Production ที่ดีขึ้นตามเทคโนโลยีการผลิตภาพยนตร์ในยุคปัจจุบัน

Alice in Wonderland

           ไมเคิล เบอร์แนม ตัวละครนำประจำซีรี่ย์นี้ แต่เดิมเราคุ้นเคยกับตัวละครนำในตำแหน่งกัปตัน และมีตัวละครลูกเรือตำแหน่งต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของทีมในการขับเคลื่อนเรื่อง แต่ครั้งนี้กลับไม่ใช่… เพราะไมเคิลคือนักโทษระดับสูงของ Starfleet

           ไมเคิล เป็นมนุษย์ที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยชาววัลแคน ‘ซาเร็ค’ พ่อของสป็อค(ลูกครึ่งต่างดาว หนึ่งในตัวละครชื่อดังของซีรี่ย์) หลังจากต้องกำพร้าเพราะครอบครัวของตนถูกฆ่าตายจากการรุกรานของคลิงออน หล่อนถูกสอนวิธีการคิดแบบวัลแคน ก้าวเข้าสู่การทำงานกับ Starfleet จนได้รับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ลำดับหนึ่ง(First Officer) ของยาน USS Shenzhou ภายใต้การดูแลของกัปตันฟิลิปาร์ จอร์จัวร์ อนาคตที่สวยหรูกลับพังทลายด้วยน้ำมือตัวเอง และผลักเธอสู่จุดที่ไม่อาจหวนกลับ แต่โอกาสแบบบังคับก็ทำให้เธอกลับมาในฐานะเจ้าหน้าที่ทีมวิทยาศาสตร์ของยาน USS Discovery

Star Trek Discovery Bernam Vkvi

           Alice in Wonderland คือคำนิยามของไมเคิล เด็กสาวที่พลัดหลงเข้าสู่ดินแดนที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน บางครั้งเธอวิ่งไปมาบนฝ่ามือของคนอื่น แต่บางครั้งเธอก็ทำสิ่งเหนือคาดจนหลายคนคล้อยตาม และเป้าหมายของเธอคือการพาตัวเองออกจากโลกอันยุ่งเหยิงนี้ให้ได้

           ด้วยการสร้างตัวละครหลักในลักษณะนี้ ทำให้กระแสตอบรับจากสาวกบางส่วนออกมาในทิศทางที่ไม่สู้ดีนัก แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง ไมเคิลคือตัวแทนของคนที่กำลังสับสนกับความเชื่อบางอย่าง ทำให้ตัวละครนี้มีความใกล้ชิดกับคนดู และชวนให้น่าติดตามได้อย่างดี

Federation – Klingon War

           เส้นเรื่องหลักของซีรี่ย์นี้คือ Federation – Klingon War สงครามระหว่างสหพันธ์ดวงดาวและชาวคลิงออน เผ่าพันธุ์นักรบที่ยึดถือความแข็งแกร่ง การใช้กำลัง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่าเกียรติและศักดิ์ศรี(หนึ่งในเผ่าพันธุ์เอเลี่ยนไอคอนของซีรี่ย์)

STAR TREK: DISCOVERY Vkvi

           สงคราม(จะ)เริ่มต้นขึ้นโดยความตั้งใจของ ‘ทคุฟม่า’ ชาวคลิงออนที่ประกาศตนเป็นผู้นำไฟแห่งคาห์เลส(หลักความเชื่อของคลิงออนที่ก่อตั้งขึ้นโดย คาห์เลส ผู้นำสูงสุดในอดีต) โดยหมายจะรวมกลุ่มคลิงออนตระกูลต่างๆ เข้าด้วยกันเป็นอันหนึ่งอันเดียว และแผ่ขยายอำนาจของอาณาจักรคลิงออนออกไปยังดินแดนต่างๆ และต้องกระทำอย่างมีเกียรติ ผู้ปลดสลักระเบิดของสงครามครั้งนี้ก็คือ ‘ไมเคิล เบอร์แนม’

           นี่คือจุดเริ่มต้นของสงครามที่จะพาเราไปสำรวจ ‘ตัวตนของคน’ ก่อนจะพบกับบทสรุปที่ไม่คาดคิด

STAR TREK: DISCOVERY war Vkvi

Lost in Space

หลังจากล้มเหลวในการลงจอดยานบนดาวเคราะห์ต่างด้าว ครอบครัวโรบินสันต้องต่อสู้กับทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดและหลบหนี แต่สิ่งที่รายล้อมพวกเขากลับเป็นอันตรายที่ถูกซ่อนไว้

Lost in Space vkvi

           เมื่อโลกไม่อาจอาศัยได้อีกต่อไปจึงเกิดโครงการสร้างอาณานิคม เรสโซลูต  ในอวกาศโดย ครอบครัวโรบินสัน ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในมนุษย์กลุ่มแรกที่ได้สิทธิ์ขึ้นไปใช้ชีวิตบนนั้น แต่หลังเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันทำให้ยาน จูปิเตอร์ของพวกเขากระเด็นไปตกยังดาวลึกลับ งานนี้ทั้ง จอห์น (โทบี สตีเฟน์) คุณพ่อทหารผู้เข้มงวดกับลูกๆ  มอรีน (มอลลี พาร์คเกอร์) คุณแม่นักวิทยาศาสตร์  จูดี้ (เทย์เลอร์ รัสเซลล์) ผู้รอบรู้ ชาญฉลาด และกล้าหาญ  เพนนี (มีนา ซันด์วอลล์) ลูกสาวคนกลางที่พร้อมลุยทุกสถานการณ์ และ วิล (แม็กซ์ เจนคินส์) ลูกชายคนเล็กที่พบมิตรภาพในตัวหุ่นยนต์สังหารต้องร่วมใจกันหาหนทางกลับสู่ เรสโซลูต ก่อนดาวดวงนี้จะถูกดวงอาทิตย์แผดเผา โดยมี ดร.สมิธ (พาร์คเกอร์ โพซีย์) ผู้มีความลับดำมืดและไม่อาจไว้ใจได้ก้าวเข้ามาแทรกกลางระหว่างครอบครัวของพวกเขา

Lost In Space Vkvi
LOST IN SPACE

           เดิมที Lost In Space  คือซีรีส์ยอดนิยมที่ออกอากาศถึง 3 ซีซันระหว่างปี 1965-1968 จำนวน 83 ตอน สร้างสรรค์โดย เออร์วิน อัลเลน ก่อนจะได้มีโอกาสขึ้นจอใหญ่ในปี 1998 ซึ่งได้เสียงตอบรับจากนักวิจารณ์ไม่ดีนัก จนมาถึงเวอร์ชั่นปัจจุบัน เมื่อ Netflix ร่วมกับ Legendary Television นำซีรีส์ไซไฟอวกาศชุดนี้มาปัดฝุ่นใหม่ให้เข้ากับบริบทสังคมที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่การเพิ่มบทบาทของตัวละครหญิงโดยเฉพาะตัวละคร มอรีน ที่ดูจะมีบทบาทและความเป็นผู้นำมากกว่า จอห์น เสียอีก สอดคล้องกับบทบาทผู้หญิงในยุคปัจจุบันที่มีประสิทธิภาพทัดเทียมกับเพศชาย รวมถึงการเปลี่ยนให้ลูกสาวคนโตอย่าง จูดี้ เป็นสาวผิวสีเพื่อเพิ่มมิติที่มาของครอบครัวโรบินสันให้ยิ่งซับซ้อน และแสดงถึงความหลากหลายด้านชาติพันธุ์อันเป็นอุดมคติของอเมริกาในยุคปัจจุบันเข้าไปได้อย่างคมคาย และทำให้ซีรีส์ชุดนี้มีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าแค่การเป็นซีรีส์รีเมคจากผลงานดังในอดีต

Lost in Space Vkvi

Lucifer

Lucifer Vkvi

             Lucifer เป็นซีรีย์แนวสืบสวนแบบจบเป็นตอนๆ ปนกับดราม่าแฟนตาซีและคอมเมดี้นิดหน่อยโดยได้ต้นเค้ามาจากคัมภีร์ไบเบิ้ล(เท่าที่เป็นในซีรีย์ได้มาจาก comic อีกทีนึง)เล่าถึงลูซิเฟอร์ อดีตเทวทูตสวรรค์ที่ก่อกบฏต่อพระเจ้าเลยถูกไล่ให้ไปปกครองนรก  หลังผ่านไปแสนนานเขาก็หนีหน้าที่ขึ้นมาพักร้อนที่โลกมนุษย์ ณ เมืองลอสเเองเจอลิส  ทำมาหากินด้วยการเปิดผับชื่อ Lux (ตอนแรกนึกว่ามาจาก luxury หรูหรา อะไรแบบนั้น แต่ไม่ใช่ จาก Lux ภาษาละตินคือแสงสว่าง) ใช้ชื่อลูซิเฟอร์ มอร์นิงสตาร์  เนื่องจากคนใกล้ตัวถูกฆาตกรรม ทำให้เขาเกิดสนใจจะช่วยตามสืบคดีหาคนร้าย ด้วยความสามารถพิเศษที่สามารถถามหาความปรารถนาที่แท้จริงของใครๆได้   เขาจึงได้พบและทำงานไขคดีร่วมกับนักสืบสาวโคลอี้ เด็คเก้อ ผู้ซึ่งเป็นข้อยกเว้นต่อพลังพิเศษต่างๆของเขา 

Lucifer Vkvi

             เป็นซีรีย์ที่ดูแล้วสบายๆไม่เครียด  เคมีพระนางลงตัว ดูความรักที่ค่อยๆพัฒนาไปพร้อมๆกับการพัฒนาตัวเองของลูซิเฟอร์แล้วอมยิ้ม ทีมนักแสดงเล่นกันดีมาก พระเอกไม่หล่อจัดแต่มีเสน่ห์ชวนมอง บางตอนมีข้อคิดดีๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้วย การที่ปีศาจไปปรึกษาจิตแพทย์นี่ก็น่ารักดี เรื่องเกิดใน LA เลยเริ่มด้วยคดีในวงการฮอลลีวู้ด  ลำพังตัวคดีค่อนข้างมาตรฐาน มีช่องว่างอยู่พอสมควร ผู้ร้ายไม่ได้เกินคาด  

Lucifer Character Vkvi

             ลูซิเฟอร์เป็นคนกล้า มีอารมณ์ขัน ไม่กลัวอะไรง่ายๆ ผู้ชายโรเเมนติก   คอยดูแลปกป้องโคลอี้  คบกันมาตั้งนานแต่แกก็กลัวเรื่องพ่อบังคับกับกลัวนางเอกเป็นอันตรายเหลือเกิน ถึงจะไม่เคยพูดคำว่ารักแต่การกระทำมันแสดงออก ผู้หญิงทั่วๆไปมักจะอยากได้ผู้ชายแบบนี้เป็นแฟน แต่จะอยากได้เป็นสามีรึเปล่านี่คงคิดหนักเรื่องความสม่ำเสมอ  ลูซิเฟอร์ต้องมีอะไรมากระตุ้น กว่าจะรู้ใจตัวเอง แถมมีเรื่องทีหายหน้าไปทีเพื่อตั้งหลัก  อยู่ว่างๆก็กวนประสาทเป็นประจำ

           จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือเพลงประกอบเพราะมาก   ได้ใช้ประโยชน์จากการเป็นเจ้าของคลับของลูซิเฟอร์ทั้งร้องทั้งเล่นเปียโนได้เข้ากับอารมณ์ในตอนนั้นๆ  ถ้าไปหาความหมายแต่ละเพลงที่เปิดจะเข้ากับเนื้อเรื่อง มีหลายแนว ส่วนตัวชอบเพลงตอนเศร้าๆ ตอนตระหนักถึงความจริงบางอย่าง สะท้อนหวาบหวามดี เบื้องหลังบางทีเขาก็อยากใช้เพลงอื่นประกอบนะ แต่บางเพลงเสียค่าลิขสิทธิ์แพง เลยต้องใช้เท่าที่หาได้ เสียงพระเอกหล่อมาก ลึกล้ำ มีพลัง  เสียงเปียโนก็เพราะ   ตอนร้องเพลง eternal flame ให้นางเอกนี่เอาใจให้ไปเลย

Riverdale

           การหายตัวไปของเจสัน บลอสซัม (เทรเวอร์ สไตนส์) ทำให้โฉมหน้าอันสวยหรูของริเวอร์เดลเปลี่ยนไป นอกจากความเศร้าโศกของ เชอรีล (แมตเดอเลน เพ็ตช์) น้องสาวตัวร้ายที่เป็นกัปตันทีมเชียร์ลีดเดอร์ริเวอร์วิกเซนแล้ว ยังมีเรื่องราวอันดำมืดรอการพิสูจน์จากกลุ่มเพื่อนรักชาวริเวอร์เดลไฮทั้ง เบตตี้ (ลิลี ไรน์ฮาร์ต) สาวน้อยอ่อนต่อโลกผู้มีด้านมืดอันซุกซ่อนอยู่, อาร์ชี่ (เคเจ เอปา) หนุ่มนักกีฬาสุดหล่อผู้เป็นที่หมายปองของสาวๆ ที่ดันมีสัมพันธ์ลับกับครูสอนดนตรีในเช้าวันเกิดเหตุ,เวโรนิกา (คามิลา เมนเดส) บุตรสาวมาเฟียตระกูลลอดจ์ที่มาพร้อมความลับอันดำมืดของครอบครัวเธอที่นำภัยร้ายมาสู่ริเวอร์เดล และ จั๊กเฮด (โคล สเปราส์) เด็กหนุ่มจากแดนใต้ที่ถูกเหยียดหยามในชาติกำเนิด พวกเขาต้องร่วมกันไขปริศนาก่อนภัยร้ายจะมาถึงตัว

Riverdale Vkvi

           หลังจาก Netflix ปล่อยซีรีส์วัยรุ่นลึกลับสุดดังอย่าง Stranger Things ออกมา แล้วเห็นลู่ทางความสำเร็จก็ได้ร่วมมือกับ Warner Bros. Television ร่วมผลิต Riverdale ซีรีส์ลึกลับที่มีวัยรุ่นเป็นตัวดำเนินเรื่องโดยจะฉายคู่ขนานกับทางช่อง CW แบบอาทิตย์ต่ออาทิตย์ ซึ่งด้วยผลตอบรับที่ดีมากก็ทำให้ขณะนี้ Riverdale ได้ดำเนินเรื่องราวมาถึงซีซันที่ 3 แล้วซึ่งมีหลายอย่างที่เหนือความคาดหมายของมากไปพอสมควร

RIverdale Archie Vkvi

นึกว่าเป็นซีรีส์ วัยรุ๊น วัยรุ่น ไฮสคูลวุ่นรัก

           ทั้งอาร์ตเวิร์ก โปสเตอร์ หรือแม้แต่โปรแกรมแนะนำใน Netflix เองเป็นรูปนักแสดงหน้าตาดีๆ ก็พาลไปนึกว่ามันจะซ้ำซากกับซีรีส์หรือหนังวัยรุ่น แต่เปล่าเลยเพราะแม้องค์ประกอบหลายอย่างจะไม่ได้ใหม่มากแต่สิ่งหนึ่งที่เพิ่มความสนุกได้อย่างไม่น่าเชื่อคือ “ความโง่” ของตัวละคร ซึ่งอันนี้ต้องยกประโยชน์ให้ทีมเขียนบทเอาความหุนหันพลันแล่น ฮอร์โมนที่พุ่งพล่านของวัยรุ่นมาก่อหายนะครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เราได้ลุ้นกันแทบทุกตอน

Stranger Things

Stranger Things Vkvi

           ซีรีย์ย้อนยุคไปในปี 80 เริ่มเรื่องจากการการหายตัวไปของเด็กชายคนหนึ่งนามว่า “วิล ไบเออร์” ซึ่งในเมืองฮอว์กิ้นส์ รัฐอินเดียน่า เป็นเมืองที่เงียบสงบและไม่เคยเกิดเหตุการทำนองนี้มาก่อน เป็นหน้าที่ของนายอำเภอฮอว์กิ้นส์ “จิม ฮ็อปเปอร์” อดีตเพื่อนสมัยเรียนของ “จอยส์” ที่เป็นแม่ของ “วิล”  ร่วมกันเพื่อช่วยตามหา “วิล”

Stranger Things Will Vkvi
Stranger Things Hobskin Vkvi

           รวมถึงกลุ่มเด็กขี้แพ้ “ไมค์” เพื่อนซี้ของวิล  “ดัสติน” เด็กชายฟันหล่อสุดกวน “ลูคัส” เพื่อนผิวสีขี้สงสัย  กลุ่มเพื่อนที่เป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกันกับ “วิล” และในระหว่างตามหา “วิล ไบเออร์” อยู่นั้น กลุ่มเพื่อนของ “วิล” กลับไปพบกับ “อีเลฟเว่น” เด็กสาวลึกลับรุ่นราวคราวเดียวกันแทน อีเลฟเว่นเด็กสาวประหลาดผมเกรียนที่ไม่รู้ชื่อของตัวเอง สื่อสารกับใครไม่ค่อยได้ และที่ข้อมือมีรอยสักรหัส 011 ไมค์ได้ให้ที่พักพิงกับอีเลฟเว่น และเรียกเธอสั้นๆ ว่า “แอล”

Stranger Things L 101 Vkvi
Stranger Things Main Character Vkvi

           ในขณะที่คนอื่นๆ ช่วยกันตามหาวิล จอยส์แม่ของวิลกลับค้นพบสิ่งผิดปกติบางอย่าง เธอได้รับการติดต่อจาก “วิล” ลูกชายที่หายตัวไปแต่ไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้ จอยส์จึงหาวิธีติดต่อกับลูกชายของเธอด้วยตัวเธอเองเท่าที่เธอจะทำได้ จนทำให้ใครๆ พาลคิดว่าเธอกำลังจะเป็นบ้า แต่ปัญหาอยู่ที่เธอไม่รู้วิธีที่จะช่วยลูกชายของเธอได้ จนผลสรุปออกมาว่าวิลได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งจอยส์เองก็ไม่มีทางเชื่อว่าเธอได้เสียวิลไปแล้ว ยังคงเชื่อมั่นและตามหาวิลต่อไป ประกอบกับในช่วงเวลาเดียวกันก็มีการหายไปของคนอื่น อย่าง “บาบาร่า ” เพื่อนของแนนซี่พี่สาวไมค์อีกด้วย แอลได้แสดงให้กลุ่มของไมค์ได้เห็นว่าตัวเองมีพลังจิต และยังสามารถรับรู้ความรู้สึกถึงวิลได้อีกด้วย

Stranger Things Communicate Vkvi

Money Heist 3

Money Heist Poster Vkvi

           Money Heist 3 ทรชนคนปล้นโลก หนังดำเนินเรื่องราวต่อจากตอนจบซีซั่นก่อน ทั้งหมดอยู่ในช่วงกบดานใช้ชีวิตอยู่กันคนละประเทศและมีกฎห้ามติดต่อกัน ตามแผนที่โปรเฟซเซอร์วางไว้ แต่สุดท้ายแผนก็ล่มจาก “ความรักทำให้พัง” แบบเดิม ซึ่งแม้แต่โปรเฟสเซอร์ที่เป็นคนตั้งกฎนี้เองก็ทำตามไม่ได้ แม้แผนสมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่เรื่องหัวใจมันห้ามกันไม่ได้

           หนังยังคงใช้คาแร็กเตอร์เดิม สูตรเดิม วางเหตุการณ์ไว้เป็นสเต็ปปล้นแบบเดิมแทบทั้งหมด แค่เปลี่ยนจากโรงกษาปณ์มาเป็นธนาคารกลางแห่งชาติของสเปน ทั้งหมดนี้จะเรียกว่าผู้สร้างเลือกเพลย์เซฟก็ว่าได้ ในเมื่อของเดิมดีอยู่แล้วจะเปลี่ยนทำไม สำหรับในมุมแฟนหนัง ดูแล้วโหยหาคิดถึงเหมือนฉากที่เหล่าตัวละครในเรื่องกลับมาเจอกันกอดกัน การย้อนรอยการวางแผน การเข้าปล้นแล้วยามคับขันตัดสลับมาที่ซีนเฉลยในห้องวางแผนเก่าๆ กับโมเดลจำลอง พวกนี้เป็นเหมือนสูตรสำเร็จที่ลงตัวดีอยู่แล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นแฟนหนังเรื่องนี้มากนัก ก็อาจจะมองว่า “หนังมักง่าย” ใช้เรื่องเดิมเปลี่ยนโลเกชั่นก็ว่าได้ ซึ่งก็เป็นแบบนั้นจริง แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือตัวละครใหม่ที่เพิ่มมา และตัวละครเก่าในโหมดแฟลชแบ็คความทรงจำของศาสตราจารย์ ซึ่งช่วยทำให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของเขากับเบอร์ลินเพิ่มมากขึ้น

Money Heist Family Vkvi

           เหมือนผู้สร้างรู้ว่าตัวละครอย่างเบอร์ลินมีคนนิยมชมชอบมาก จึงเลือกพาเบอร์ลินกลับมาและเทเวลาให้ทุกตอน จนรู้สึกว่าจงใจยัดเข้ามาขายแฟนๆ เป็นหลักเลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าใครชอบเบอร์ลินก็คงโอเคกับการที่จะได้เห็นเขาไปจนจบเรื่อง แต่ยังไงนี่ก็เป็นแค่แฟลชแบ็คไม่ใช่ปัจจุบัน พอหนังพยายามยัดส่วนนี้มามาก ก็ทำให้เรื่องราวดูอืดลง หลายซีนที่ย้อนกลับไปบางทีเล็กน้อยจนแทบจะไม่ได้มีความสำคัญ เหมือนแค่ต้องการเซอร์วิสแฟนๆ เท่านั้น แต่ก็ถือว่าไม่ได้ทำให้เสียหายอะไรนัก เพราะเมนหลักในภาคนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเบอร์ลินเป็นหลักเยอะอยู่ เรียกว่าเป็นความฉลาดพอตัวในการเขียนบทให้ใช้ตัวละครเก่าได้อย่างเต็มที่กับเรื่องราวใหม่ในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากแฟลชแบ็คเบอร์ลินแล้ว หนังยังสร้างตัวละครใหม่มาแทนที่เบอร์ลินในตำแหน่งเดิม บทแบบเดิม คาแรกเตอร์คล้ายๆ กัน ซึ่งผู้สร้างพยายามปั้นให้ได้เท่าเบอร์ลิน แต่ด้วยความที่ใครมาแทนกันก็ไม่ได้ คนชอบเบอร์ลินก็คงไม่ได้รู้สึกว่าคนใหม่แทนคนเก่าได้จริงๆ

Money Heist All Character Vkvi

           ส่วนตัวละครใหม่อื่นๆ ที่เพิ่มมาในภาคนี้ยังเป็นแค่ส่วนเสริมเท่านั้น หนังยังเลือกโฟกัสไปที่กลุ่มตัวละครเดิมที่คนดูผูกพันมากกว่า ซึ่งภาคนี้ขยายความสัมพันธ์ของทุกคู่ให้เราเห็นถึงผลกระทบและการทำต่อมาจากภาคก่อน ซึ่งนี่ยังเป็นหนังที่เดินเรื่องด้วยความรัก พังด้วยความรัก และจบลงด้วยความรักอยู่เช่นเดิม หนังใช้การแฟลชแบ็คชีวิตรักของทุกคู่ประกบไปกับช่วงเวลาคับขันต่างๆ ทำให้เห็นว่าตัวละครแต่ละตัวตัดสินใจลงไปเพราะอะไร ซึ่งหนังได้ตอบคำถามถึงความสมเหตุสมผลได้ ไม่มีการทำอะไรโง่ๆ แบบไร้เหตุผล ทุกอย่างเป็นไปตามนิสัย แบ็คกราวด์ในเรื่องได้ตรงดีทุกคน