Tale of the Nine Tailed

ซีรี่ย์เกาหลี 2020 แนวโรแมนติก แฟนตาซี เรื่องราวของพระเอกหนุ่มสุดหล่อ มาดเท่ที่เป็นสุนัขจิ้งจอกเก้าหางในตำนาน ใช้ชีวิตกลมกลืนอยู่ในโลกมนุษย์ และได้มาเจอกับนางเอก สาวโปรดิวเซอร์ทำรายการเกี่ยวกับสิ่งลึกลับเหนือธรรมชาติ โดยสงสัยและพยายามตามล่าหาสุนัขจิ้งจอกเก้าหางเพื่อหวังดึงเรตติ้งรายการ โดยที่ไม่รู้ว่าภัยอันตรายกำลังจะมาเยือน

รีวิวซีรี่ย์เกาหลี START-UP สตาร์ทอัพ 4.0 บน NETFLIX

ซีรี่ย์เล่าถึงตัวละครทั้งสี่คนที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต่างเดินตามความฝัน โดยเป้าหมายก้าวแรกของ (เกือบ) ทุกคนคือ “Sandbox” ซึ่งเป็นองค์กรที่สนุบสนุนด้านความรู้ เงินทุน สถานที่ และ facility ต่าง ๆ เพื่อให้เหล่าสตาร์ทอัพไปสู่เป้าหมายใหญ่ได้ง่ายขึ้น (น่าจะ inspired มาจาก Silicon Valley ซึ่งเป็น community ของเหล่าสตาร์ทอัพมืออาชีพ และเป็นหนึ่งในเป้าหมายสูงสุดของชาวสตาร์ทอัพทั่วโลก)

Start-Up ซีรีส์รักเกิดในวงการสตาร์ทอัพ การพบกันของแบซูจีและนัมจูฮยอก – THE  STANDARD

Start-Up (หรือ Original title คือ Seutateueob) ep.1 ของ Netflix ออนแอร์ครั้งแรกตั้งแต่ 17 ต.ค. 2020 ซีรีส์มันสนุกจริง ๆ และเขาก็ทำให้เราอินกับตัวละครอย่างโงหัวแทบไม่ขึ้น เสมือนเรากำลังเดินทางและเริ่มดำเนินสตาร์ทอัพไปพร้อม ๆ กับตัวละครเอก

ด้วย Start-Up มันเป็น ongoing series ที่ปล่อยเป็นตอน ๆ มาใหม่ทุก ๆ เสาร์-อาทิตย์ (มีทั้งหมด 16 episodes) ระหว่างที่เรารอ ep ใหม่มาฉายในวันเสาร์ถัดไป เราก็อยากจะเขียนถึง Start-Up เพื่อบันทึกความคิดความรู้สึกของเราที่มีต่อซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้สักหน่อย โดย Start-Up ถือเป็นซีรีส์เกาหลีเรื่องแรกที่เราดูแล้วอยากเขียนเป็นบล็อก และเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่เราจะเขียนบล็อกตั้งแต่ยังดูไม่จบทุก episodes

Start-Up เป็นซีรีส์เกาหลีของ Netflix เรื่องล่าสุดที่เล่าเกี่ยวกับวงการธุรกิจอีกเรื่อง ที่เพิ่งคลอดตาม Itaewon Class มาในช่วงท้ายปี ในขณะที่ Itaewon Class เน้นไปที่การทำร้านอาหารในย่านทำเลทองและการลงทุนในระยะยาว Start-Up จะเน้นพูดถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เน้นที่ไอเดียใหม่ ๆ การระดมทุนจากนายทุน และการเติบโตที่ไวกว่า SME (จึงมักใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน)

Start-Up เป็นเทรนด์ธุรกิจที่มีอิทธิพลต่อความฝันของคนรุ่นใหม่และวิถีชีวิตของผู้คนในยุค 4.0 เป็นอย่างยิ่ง อาจเพราะชื่อเรียกอันสวยหรู อาจเพราะเราต่างเติบโตมากับเทคโนโลยี อาจเพราะเราอยากจะเปลี่ยนแปลงโลก อาจเพราะผลตอบแทนที่ประเมินค่าไม่ได้ อาจเพราะมี MarkZuckerberg กับ Steve Jobs เป็นไอดอล หรืออาจเพราะเบื่อระบบการทำงานแบบเก่า ๆ ฯลฯ แต่ทว่า เส้นทางนี้ โดยเฉพาะในช่วงตั้งไข่ มันไม่ง่าย ไม่ได้สวยหรู เช่นเดียวกับ Steve Jobs ที่ต้องเริ่มต้นเปิดเปอร์เซ็นต์ส่วนใหญ่ของนักล่าฝันในแวดวงสตาร์ทอัพจึงมักประสบความล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ


  • Seo Dal-mi (Suzy Bae จาก Ashfall) เด็กสาวสู้ชีวิต เธอเลือกอยู่กับพ่อหลังจากพ่อแม่หย่ากัน แต่พอพ่อจากไป เธอก็มาอาศัยอยู่กับย่า (Hae-sook Kim จาก The Handmaiden) เธอฉลาดและมีความสามารถแต่ไม่ได้เรียนจบมหาวิทยาลัย ทำให้เธอไม่ได้บรรจุเป็นพนักงานประจำสักทีทั้งที่ตั้งใจทำงานหนักเพื่อองค์กรมาโดยตลอด เธอจึงลาออกและพยายามเข้าวงการสตาร์ทอัพ

  • Won In-jae (Han-na Kang จาก Empire of Lust) พี่สาวแท้ ๆ ของ Seo Dal-mi แต่เธอเลือกไปอยู่กับแม่และครอบครัวใหม่ของแม่ที่เป็นนักธุรกิจมหาเศรษฐี เธอช่วยพ่อใหม่ขยายอาณาจักรธุรกิจจนใหญ่โต แต่สุดท้ายพ่อใหม่ก็เอาไปยกให้ทายาทในไส้ของเขาทำต่อ ทำให้ In-jae ออกมาทำสตาร์ทอัพเอง เพื่อลบล้างคำสบประมาทที่ว่า เธอมีทุกวันนี้ได้เพราะเงินและเส้นสายของพ่อใหม่

  • Nam Do-san (Joo-Hyuk Nam จาก The Great Battle) นักคณิตศาสตร์โอลิมปิก เนิร์ดไอที ขอเงินพ่อแม่มาเริ่มลงทุนทำสตาร์ทอัพของตัวเองกับเพื่อนอีกสองคน “Samsan Tech” แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีนักลงทุนคนไหนสนใจที่จะมาลงทุนด้วย เขารู้สึกแย่ที่ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง และการได้พบกับ Seo Dal-mi มันช่วยผลักดันเขาให้เขาปรับปรุงตัวเองและประสบความสำเร็จให้ได้

  • Han Ji-pyeong (Sun-ho Kim จาก Catch the Ghost) เป็นเด็กกำพร้าที่คุณย่าของ Seo Dal-mi เคยช่วยเหลือไว้ เขาเก่งด้านการลงทุนทำให้เขามีเงินส่งตัวเองเข้ามหาวิทยาลัยโซล มีหน้าที่การงานดี ฐานะการเงินมั่นคง และมีชีวิตที่สุขสบาย แต่เขาต้องมาช่วย Seo Dal-mi และ Nam Do-san ทำสตาร์ทอัพให้สำเร็จ
Netflix ประกาศฉาย Start-Up ทำความรู้จัก 4 ตัวละครนำก่อนเจอกันตุลาคมนี้

แน่นอนว่า นอกจากพาร์ทของการทำธุรกิจแล้ว ซีรีส์ที่สนุกต้องมีสตอรี่หรือปมอื่น ๆ ด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน หนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คนดูอยากติดตามเอาใจช่วยและเวิร์กกับหนัง/ซีรีส์แทบทุกเรื่องคือ ปมรักสามเส้า ซึ่งสำหรับใน Start-Up ก็คือ…

สมัยที่ทุกคนยังเป็นวัยรุ่น คุณย่าเคยขอให้ Ji-pyeong เป็น pen pal ให้กับ Dal-mi หน่อย เพราะสงสารที่เธอต้องแยกกับพี่สาว แต่ในจดหมายพวกเขาใช้ชื่อปลอมโดยแรนดอมจากหน้าสนพ. ได้ชื่อว่า Nam Do-san ซึ่งตอนนั้นได้แชมป์คณิตศาสตร์โอลิมปิก ทำให้ Do-san กลายเป็นรักแรกของ Dal-mi ทั้งที่ไม่เคยเจอกัน

แนะนำซีรี่ย์เกาหลี 18 Again (2020)

” เมื่อสามีที่น่าเบื่อหน่ายดันกลายเป็นชายหนุ่มอายุ 18 ที่น่าหลงใหล … ความทรงจำที่เหมือนจะจางหายไปนานแล้วก็ดูเหมือนจะย้อนกลับมาอีกครั้ง “

คิมฮานึล รับบทเป็น จองดาจอง

ผู้ประกาศข่าวสาวหน้าใหม่ที่มีจิตใจอบอุ่นแต่ความสัมพันธ์กับสามีกำลังย่ำแย่ เธอและสามีมีลูกชายอายุ 18 ปี

ยุนซังฮยอน รับบทเป็น ฮงแดยอง

ชายหนุ่มในวัย 37 ปีที่เพิ่งโดนไล่ออกจากงาน นอกจากนั้นความสัมพันธ์กับภรรยาก็กำลังตกต่ำและยังดูเหมือนว่าจะตกลงกันไม่ได้ง่าย ๆ

อีโดฮยอน รับบทเป็น ฮงแดยอง และ โกอูยอง

ฮงแดยอง ในวัย 18 ปีที่ได้กลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้ง และใช้ชีวิตภายใต้ชื่อ โกอูยอง การกลับมาเป็นหนุ่มอีกครั้งของเขาในครั้งนี้เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้เขาได้ทำตามความฝันที่อยากเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลที่เขาเคยล้มเลิกไปก่อนหน้านี้เนื่องจากสถานการณ์ภายในครอบครัว

ซีรี่ย์เกาหลี 2020 แนวโรแมนติกคอมเมดี้ ปนดราม่านิด ๆเป็นซีรี่ย์ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนต์ เรื่องราวของพระเอกที่เคยเป็นอดีตนักบาสโรงเรียนสุดฮอต แต่ปัจจุบันกลายมาเป็นคุณลุงวัย 37 ที่กำลังตกงาน แถมเบื่อหน่ายกับชีวิต และได้หย่ากับภรรยาที่มีลูกฝาแฝดชายหญิงด้วยด้วยกันตั้งแต่ตอนเรียนมัธยม แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้ย้อนกลับไปอยู่ในร่างกายตอนอายุ 18 ปี และยังมีความคิดและจิตใจเหมือนเดิม จึงได้ใช้ชีวิตในชื่อใหม่เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับลูกชายลูกสาว และได้กลับมาเจอกับภรรยาอีกครั้ง

เรื่องนี้สนุก ละมุม อบอุ่นน่ารัก มีการสะท้อนสังคม แนะนำว่าห้ามพลาด

รีวิว ซีรี่ย์เกาหลี A PIECE OF YOUR MIND (2020) (반의 반)

ชื่อเรื่อง : A Piece of Your Mind (반의 반)
แนว : 
โรแมนติก 
ผู้กำกับ :
 อีซังยอบ (ผลงานก่อนหน้า “My Holo Love”)
คนเขียนบท : 
อีซุกยอน (ผลงานก่อนหน้า “On the Way to the Airport”)
จำนวนตอน :
 12

เรื่องย่อ : ซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวของความรัก ระหว่าง ฮาวอน (รับบทโดย จองแฮอิน) โปรแกรมเมอร์หนุ่มเชี่ยวชาญด้าน AI ที่เงียบขรึมและใจดี เขาประสบกับรักที่ไม่สมหวังมาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ยังคงยึดติดกับรักครั้งนี้อยู่ และ ฮันซออู (รับบทโดย แชซูบิน) สาววิศวกรด้านการบันทึกเสียงดนตรีคลาสสิค เธอมักจะใช้ชีวิตด้วยพลังบวก วันหนึ่งเธอเริ่มหลงเสน่ห์ฮาวอน และคอยมองเขาที่แอบรักใครบางคนข้างเดียว

นักแสดง

จองแฮอิน รับบทเป็น ฮาวอน

โปรแกรมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกบริษัท M&H  ถึงแม้ว่าปกติแล้วเขาจะเป็นผู้ชายที่จิตใจดีแต่เมื่อถึงเวลาทำงานเขาก็จะจริงจัง เขาใช้เวลาหลายปีกับการมีรักข้างเดียว และพยายามที่จะสร้างงานประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งเพื่อที่จะไม่ลืมความทรงจำที่ล้ำค่าในอดีตของเขา

แชซูบิน รับบทเป็น ฮันซออู

สาวมองโลกในแง่ดีทำงานเป็นวิศวกรด้านการบันทึกเสียงที่คอยแอบมองฮาวอนอยู่ตลอดเวลาจนตกหลุมรักเขาที่กำลังมีรักข้างเดียวอยู่เช่นเดียวกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้เขารับรู้ความรู้สึกของเธอ

อีฮานา รับบทเป็น มุนซุนโฮ

หญิงสาวที่ทำงานเป็นชาวสวนและอุทิศชีวิตของเธอเพื่อรักษาสวนฮาวอนเอาไว้ ถึงแม้ว่าเธอจะทำงานรักษาต้นไม้ในสวนเป็นจำนวนมากด้วยตนเอง แต่เธอก็ยังเคร่งครัดกับการรักษาน้ำหนักตัวของเธอ แต่นอกเหนือจากเรื่องน้ำหนักตัวของเธอ สิ่งอื่นเธอก็ไม่แยแสอะไรใดๆทั้งสิ้น

คิมซองกยู รับบทเป็น คังอินอุค

นักเปียโนหนุ่มที่เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความสามารถทางด้านดนตรีและศิลปะชั้นเลิศ แต่ผลงานของเขาก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในคนหมู่มาก ถึงแม้ว่าดูเหมือนจะเป็นคนสุภาพและเข้ากับคนง่าย แต่ส่วนลึกแล้วเขามีความวิตกกังวลว่าจะสูญเสียทุกอย่างไปในเพียงพริบตาเดียว จึงทำให้เขาเป็นห่วงไปซะทุกอย่างแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

ติดตามรับชม ซีรี่ย์เกาหลี A PIECE OF YOUR MIND (2020) ได้ที่ ดูซีรี่ย์เกาหลี

Tell Me What You Saw : นั่งสืบในความมืด

เรื่องย่อ
โลกของ โอฮยอนแจ (รับบทโดย จางฮยอก ผลงาน : Voice / My Country / Fated to Love You) มืดมิด เพราะอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีก่อน นอกจากการสูญเสียคู่หมั้นไปต่อหน้าต่อตา เขายังสูญเสียความสามารถในการเดินและการมองเห็น หลังจากนั้น โอฮยอนแจ ที่เคยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะโปรไฟล์เลอร์ที่ช่วยเหลือในการจับคนร้ายในคดีมากมาย ก็หายไปจากสังคม ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขายังมีชีวิตหรือตายไปแล้ว นอกจาก ฮวังฮายอง (รับบทโดย จินซอยอน ผลงาน : Shine or Go Crazy / Eve’s Love) เพื่อนตำรวจของเขา ฮยอนแจ ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ห่างไกล แต่ยังคงติดตามเรื่องราวภายนอก โดยรับรู้เรื่องราวผ่านการฟังเสียงมากมาย จากการลอบเข้าไปในระบบสัญญาณเสียงต่างๆ ที่เขายังต้องติดตามโลกภายนอกนั้น มีเหตุผล…

ชาซูยอง (รับบทโย ชเวซูยอง ผลงาน : The Spring of My Life / Police Unit 38 / Man Who Sets The Table) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเมืองชนบท เธอมีความสามารถพิเศษในการจดจำภาพที่เห็นละเอียดได้ราวภาพถ่าย ด้วยความสามารถพิเศษนี้ ทำให้เธอ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในทีมสืบสวนคดีฆาตกรรมที่เธอเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกที่ไปถึงที่เกิดเหตุ แม้ความสามารถของเธอจะยังเป็นที่กังขา แต่เมื่อได้ทำงานร่วมกับหัวหน้าฮวัง และด้วยความช่วยเหลือของฮยอนแจ เธอก็สามารถจับตัวคนร้าย และช่วยเหลือเหยื่อได้

แต่เรื่องกลับไม่จบง่ายๆ เพราะนอกจากคดีนี้ จะเป็นเพียงการลอกเลียนแบบของชายสติไม่สมประกอบ ที่พยายามเลียนแบบ ฆาตกรลูกอมมิ้นท์ที่หลายคนพยายามจะเชื่อว่าตายไปแล้ว ฆาตกรที่เป็นเหตุของความสูญเสียทั้งหมดของฮยอนแจ ฆาตกรที่เขาสงสัยและตามหามาตลอด ชายที่เลียนแบบการฆาตกรรม ถูกฆาตกรรมระหว่างถูกกักตัวเพื่อทำการสอบสวน และในปากของเขา ทีมนิติเวช พบลูกอมมิ้นท์ หรือ “คนนั้น” จะยังอยู่ หรือนี่จะเป็นเพียงอีกการลอกเลียนแบบ

ซูยอง จะใช้ความสามารถในการจดจำของเธอ ถ่ายทอดสิ่งที่เธอเห็นแก่ฮยอนแจ เป็นดวงตาของเขา เพื่อให้เขากลับมาทำหน้าที่สุดยอดโปรไฟล์เลอร์ และช่วยให้เขาจับกุม “คนนั้น” ได้หรือไม่… การฆาตกรรมต่อเนื่องที่โหดร้าย จะมีใครไปรายต่อไป

นักแสดงที่รับบทหนักในเรื่องนี้ และต้องออกวิ่งแทนเฮียของเรา ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นสาวไอดอลนักแสดงอีกคนที่เราคุ้นคยกันดีอย่าง ชเวซูยอง ซึ่งเรื่องนี้นับได้ว่าเป็นผลงานสายโหดเรื่องแรกของเธอ นอกจากการแสดงที่เป็นธรรมชาติ และดูเป็นหญิงสาวที่ธรรมดามากๆ (มีความสามรถพิเศษ แต่เป็นตำรวจสาว จากบ้านนอกธรรมดา พร้อมการแต่งหน้าสด แบบสดกว่านี้ก็ปลาในทะเลแล้ว) เธอยังโชว์ความสามารถการใช้ภาษามือ และ ต้องลุยในฉากที่อาจทำให้เจ็บตัวได้หลายฉาก นอกจากนี้ยังมีทีม ที่นำโดยจินซอยุน และเพื่อนตำรวจที่มาช่วยคลายเครียดในบางจังหวะ แล้วนอกจากคนร้ายก็ยังมีตัวละครตำรวจด้วยกัน ที่คอยพยายามขัดขวางการค้นหาความจริงด้วย เรียกได้ว่านอกจากต้องสืบ ยังต้องทำงานให้เร็วกว่า คนที่คอยขัดขวางด้วย… จริงจังแบบไม่ได้พักกันเลย

สนับสนุนโดย Vkvi.net ดูซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ส์ฝรั่ง  ดูหนังออนไลน์ฟรี

อัพเดต ซีรี่ย์เกาหลี 2020 ครึ่งปีแรก แนะนำว่าต้องดู !!

หน้าหลัก ร้อยเรื่องเที่ยว อัพเดตเทรนด์ก่อนใคร ที่นี่ !! อัพเดต ซีรี่ย์เกาหลี 2020 ครึ่งปีแรก แนะนำว่าต้องดู !!
อัพเดต ซีรี่ย์เกาหลี 2020 ครึ่งปีแรก แนะนำว่าต้องดู !!
2.1K
SHARES
อัพเดต ซีรี่ย์เกาหลี 2020 ครึ่งปีแรก แนะนำว่าต้องดู !! By Editor.Mushroom Travelโพสเมื่อ 10 ม.ค. 2563
อัพเดต ซีรี่ย์เกาหลี 2020 ครึ่งปีแรก แนะนำว่าต้องดู !!
อันยองฮาเซโย~ เข้าสู่ปีใหม่ก็ได้เวลาที่คอซีรี่ย์เกาหลีอย่างพวกเราจะมา อัพเดต ซีรี่ย์เกาหลี 2020 เรื่องน่าดู ในครึ่งปีแรกกันแล้วจ้าา… ปีนี้ทางฝั่งแดนกิมจิก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย เพราะมีลิสต์ ซีรี่ย์เกาหลีน่าดู น่าติดตาม พร้อมนักแสดงนำระดับแม่เหล็กหลายเรื่องมากๆ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล แนะนำให้เกาะขอบจอรอดูกันตั้งแต่ต้นปีเลย ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้าง พี่เห็ดคัดเรื่องเด็ดมาให้ชมแล้ว ไปอัพเดตกันเลย…!!

The Game: Towards Zero

เรื่องถัดมาเป็น ซีรี่ย์เกาหลี 2020 ที่แฟนๆ รอคอย เพราะเป็นการคัมแบ็คครั้งแรกหลังปลดประจำการของไอดอลนักแสดงหนุ่ม แทคยอน 2PM ในซีรี่ย์แนวลึกลับ-เมโลดราม่าเรื่อง The Game: Towards Zero เรื่องราวของ แทพยอง (แสดงโดย อ๊กแทคยอน) ชายที่มองเห็นความตายเมื่อได้มองไปในตาของใครก็ตาม วันหนึ่งเขาได้เข้าไปพัวพันกับการสืบคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง คู่กับตำรวจสายสืบสาว ซอจุนยอง (แสดงโดย อียอนฮี) เพื่อตามล่าหาฆาตกรต่อเนื่องและไขปริศนาคดีสุดลึกลับนี้ไปพร้อมๆ กัน เป็นอีกหนึ่ง ซีรี่ย์เกาหลีน่าดู ใครชอบแนวนี้อย่าลืมติดตามกันนะ