รีวิวซีรี่ย์เกาหลี Flower of Evil : หรือเขาคนนี้อาจเป็น “ฆาตกร”

Flower of Evil เล่าเรื่องของครอบครัวแสนอบอุ่นของ แบคฮีซอง (รับบทโดย อีจุนกิ) ช่างโลหะฝีมือดีที่มีสตูดิโอเป็นของตัวเอง ภรรยาของเขาคือ ชาจีวอน (รับบทโดย มุนแชวอน) สายสืบหญิงแกร่งที่มุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เคยละเลยหน้าที่ของภรรยาและแม่ที่ดี พวกเขามี แบคอึนฮา ลูกสาวตัวน้อยเป็นพยานรักและเติมเต็มให้มีชีวิตครอบครัวที่เกือบจะสมบูรณ์พร้อม 

ที่ว่าเกือบจะสมบูรณ์ เพราะแบคฮีซองมีบางอย่างที่พยายามปิดบังทุกคนเอาไว้ เนื้อเรื่องปูทางให้เราเริ่มตั้งข้อสงสัยกับเขาตั้งแต่ที่ชายหนุ่มผู้สุภาพอ่อนโยนมีภารกิจต้องฝึกแสดงสีหน้า ทั้งการยิ้ม หัวเราะ และใบหน้าของความเห็นใจ ที่หน้ากระจกในทุกๆ วัน เพื่อปิดบังใบหน้าแสนเรียบเฉยและเย็นชาที่ซ่อนอยู่ภายในของเขา ถ้ารอยยิ้มที่เขาส่งมาทุกวันไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริง ไหนจะความสัมพันธ์กับพ่อแม่ที่ดูไม่ค่อยสนิทสนมกันเท่าที่ควร แล้วความจริงที่เขาพยายามซ่อนเอาไว้คืออะไรกันแน่

เรื่องนี้อีจุนกิรับบทเป็น โดฮยอนซูในคราบ แบคฮีซอง อ่ะ ไม่งงนะ คือฮีทิ้งชีวิตความเป็นโดฮยอนซู เด็กหนุ่มที่เป็นลูกชายของฆาตกรต่อเนื่องมาเป็น แบคฮีซอง ลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาล ทิ้งชีวิตเมื่อ 18 ปีที่แล้วเอาไว้ข้างหลังอย่างหวาด ๆ แล้วมาแต่งงานอยู่กินกับ ชาจีวอน (มุนแชวอน) ตำรวจสายสืบคดีอาชญากรรม อยู่กินกันมา 14 ปี จนมี แบคอึนฮา (จองซอยอน) ลูกสาววัยกำลังน่ารักด้วยกัน 1 คน

ภายนอกแบคฮีซองคนนี้ เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่น่ารักของลูก เปิดร้านออกแบบโลหะอยู่กับบ้าน ดูแลลูกและภรรยาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแถมยังทำอาหารอร่อย เรียกได้ว่าคือสามีในฝันที่ใครเห็นต่างก็พากันอิจฉา เป็นครอบครัวอบอุ่นที่เหมาะสมกับคำว่าสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งชาจีวอนต้องเข้าไปรับผิดชอบคดีฆาตกรรม และเริ่มสงสัยว่าสามีที่อยู่กินมานาน 14 ปี อาจเป็นฆาตกรที่หลบซ่อนอยู่ในชื่อคนอื่น


ในอีกมุมหนึ่ง เกิดเหตุฆาตกรรมที่ฆาตกรลอกเลียนแบบคดีดังเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน เป็นการฆ่าแบบทารุณเหยื่อจนวินาทีสุดท้ายและเกิดต่อเนื่องอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง จึงร้อนไปถึงชาจีวอนที่ได้รับมอบหมายมาทำคดีนี้ ด้วยความที่เธอมักมุ่งมั่นและทุ่มสุดตัวเพื่อไขคดี เธอจึงค่อยๆ เอาตัวเองไปใกล้กับคนร้าย และอาจจะใกล้มากเสียจนเป็นคนข้างกายที่เธอรู้จักมากว่า 14 ปีก็ได้ 

ด้วยหลักฐานและพยานในเหตุการณ์ชี้ไปว่าคนร้ายในคดีฆาตกรรมล่าสุดอาจจะเป็น โทฮยอนซู ลูกชายของฆาตกร โทมินซอก ผู้ล่วงลับ ยิ่งสืบลึกลงไป ตัวตนของโทฮยอนซูก็ยิ่งน่าสงสัยมากขึ้น เพราะไม่มีใครได้พบเขามากกว่า 20 ปี ไม่มีใครรู้ว่าเขายังอยู่หรือว่าตาย มีเพียงหลักฐานที่ค่อยๆ ชี้ว่าเขานี่แหละคือฆาตกรที่โผล่มาก่อเหตุฆาตกรรมโหดอีกครั้ง

มาถึงตรงนี้ผู้อ่านน่าจะพอเดาได้คร่าวๆ ว่าโทฮยอนซูในเรื่องคือใคร และเราก็ต้องขออภัยที่จะต้องสปอยล์เนื้อหาสำคัญเพื่อให้เล่าเรื่องน่าสนใจในลำดับต่อ ๆ ไปได้ง่ายยิ่งขึ้น โทฮยอนซูที่ว่าก็คือแบคฮีซองนั่นเองค่ะ (ส่วนจากลูกชายฆาตกรกลายมาเป็นลูกชายผู้อำนวยการโรงพยาบาลและช่างโลหะเลื่องชื่อได้อย่างไร แนะนำให้ไปหาคำตอบด้วยตัวเอง สนุกมาก!) 

เมื่อเป็นเช่นนั้น โทฮยอนซู (ในนามของแบคฮีซอง) เลยต้องออกมาปกป้องตัวเองด้วยการตามหาคนร้ายตัวเอง ไปพร้อม กับปกปิดไม่ให้ภรรยารู้ตัวตนที่แท้จริง แต่ยิ่งค้นลงไปลึกเท่าไหร่ ความจริงในอดีตที่เลวร้ายก็ค่อย ๆ ปรากฏชัดเจนขึ้น ฆาตกรที่แท้จริงกลับมีมากกว่าหนึ่งคน และไม่ใช่เพียงฆาตกรที่ฆ่าคนบริสุทธิ์ให้ตาย แต่ยังมีฆาตกรที่พรากหัวใจและจิตวิญญาณของคนธรรมดาอีกหลายคนไปด้วย 

ถ้าถามว่าจุดไหนของซีรีส์ Flower of Evil ที่เราให้คะแนนเต็มสิบ ขอยกให้เรื่องการเชื่อมโยงเรื่องราวให้เข้ากันได้อย่างต่อเนื่อง อย่างที่บอกว่าปมปัญหาแรกของเรื่องเริ่มจากการที่ปูให้คนดูเริ่มสงสัยในพฤติกรรมแปลกๆ ของแบคฮีซอง ต่อด้วยการจุดชนวนปมใหญ่อย่างการที่บุคคลสูญหายอย่างโทฮยอนซูถูกตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นฆาตกร ทำให้ทุกสายตาที่เคยมองผ่านกลับมาสนใจและตามหาตัวโทฮยอนซูอีกครั้ง เดือดร้อนถึงแบคฮีซองที่ต้องมาแก้ต่างให้ตัวเอง แต่กลับออกหน้าไม่ได้ และไหนจะต้องรับมือกับความหวาดระแวงขั้นสูงของชาจีวอน ภรรยาข้างกายที่ระแคะระคายว่าคนรักของเธอคือฆาตกรที่กำลังตามหา ขอบอกเลยว่านี่แค่เริ่มเรื่องเท่านั้น นับเป็น 2 จาก 16 ตอนก็ว่าได้ ยังมีการเชื่อมโยงเรื่องอีกมากมายรอให้คุณไปพิสูจน์ว่า Flower of Evil ทำได้ยอดเยี่ยมจริง ๆ 

อีกประเด็นที่ Flower of Evil หยิบมาเล่าแล้วกระทบใจเราเป็นพิเศษ คือปัญหาเรื่องการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่ ในเรื่องมีตัวอย่างของครอบครัวหลายแบบที่แสดงวิธีการฟูมฟักให้เด็กคนหนึ่งเติบโตมาในแบบของตัวเอง บ้างพยายามถ่ายทอดความคิด ความชอบ หรือขีดเส้นทางชีวิตให้เด็ก แต่สิ่งหนึ่งที่ครอบครัวของตัวละครในเรื่องมักปฏิบัติกับลูก คือการสร้างความคาดหวังและอยากให้ลูกมีชีวิตที่เป็นไปตามความหวังนั้นๆ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะมากเกินไป หรือไม่ใช่การมีชีวิตอย่างที่คนปกติจะเป็น ถ้าจะเรียกว่าเป็นการที่ “พ่อแม่รังแกฉัน” ก็คงจะไม่ได้ผิดความหมายไปเท่าใดนัก 

ใครคือฆาตกรต่อเนื่องตัวจริง สุดท้ายชายที่สังคมตราหน้าไปแล้วว่าเป็นคนร้าย แท้จริงเขาคือคนผิดหรือไม่ ปัญหาความสัมพันธ์ของคู่รักที่มีชีวิตและครอบครัวเป็นเดิมพันจะจบลงอย่างไร และสุดท้าย เขาจะมีชีวิตต่อไปในนามของแบคฮีซองหรือโทฮยอนซู ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน Flower of Evil 

Flower of Evil

  • แนว : เมโลดราม่า | ลึกลับ | ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ : คิมชอลคยู
  • คนเขียนบท : ยูจองฮี
  • วัน-เวลาออนแอร์ : พฤหัส-ศุกร์
  • จำนวนตอน : 16
  • ช่วงทางรับชม : VIU , WeTV , iQIYI

รีวิว ซีรี่ย์เกาหลี A PIECE OF YOUR MIND (2020) (반의 반)

ชื่อเรื่อง : A Piece of Your Mind (반의 반)
แนว : 
โรแมนติก 
ผู้กำกับ :
 อีซังยอบ (ผลงานก่อนหน้า “My Holo Love”)
คนเขียนบท : 
อีซุกยอน (ผลงานก่อนหน้า “On the Way to the Airport”)
จำนวนตอน :
 12

เรื่องย่อ : ซีรีส์บอกเล่าเรื่องราวของความรัก ระหว่าง ฮาวอน (รับบทโดย จองแฮอิน) โปรแกรมเมอร์หนุ่มเชี่ยวชาญด้าน AI ที่เงียบขรึมและใจดี เขาประสบกับรักที่ไม่สมหวังมาเป็นเวลาหลายปี แต่ก็ยังคงยึดติดกับรักครั้งนี้อยู่ และ ฮันซออู (รับบทโดย แชซูบิน) สาววิศวกรด้านการบันทึกเสียงดนตรีคลาสสิค เธอมักจะใช้ชีวิตด้วยพลังบวก วันหนึ่งเธอเริ่มหลงเสน่ห์ฮาวอน และคอยมองเขาที่แอบรักใครบางคนข้างเดียว

นักแสดง

จองแฮอิน รับบทเป็น ฮาวอน

โปรแกรมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญด้าน Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกบริษัท M&H  ถึงแม้ว่าปกติแล้วเขาจะเป็นผู้ชายที่จิตใจดีแต่เมื่อถึงเวลาทำงานเขาก็จะจริงจัง เขาใช้เวลาหลายปีกับการมีรักข้างเดียว และพยายามที่จะสร้างงานประดิษฐ์ชิ้นหนึ่งเพื่อที่จะไม่ลืมความทรงจำที่ล้ำค่าในอดีตของเขา

แชซูบิน รับบทเป็น ฮันซออู

สาวมองโลกในแง่ดีทำงานเป็นวิศวกรด้านการบันทึกเสียงที่คอยแอบมองฮาวอนอยู่ตลอดเวลาจนตกหลุมรักเขาที่กำลังมีรักข้างเดียวอยู่เช่นเดียวกัน แต่เธอก็ไม่อยากให้เขารับรู้ความรู้สึกของเธอ

อีฮานา รับบทเป็น มุนซุนโฮ

หญิงสาวที่ทำงานเป็นชาวสวนและอุทิศชีวิตของเธอเพื่อรักษาสวนฮาวอนเอาไว้ ถึงแม้ว่าเธอจะทำงานรักษาต้นไม้ในสวนเป็นจำนวนมากด้วยตนเอง แต่เธอก็ยังเคร่งครัดกับการรักษาน้ำหนักตัวของเธอ แต่นอกเหนือจากเรื่องน้ำหนักตัวของเธอ สิ่งอื่นเธอก็ไม่แยแสอะไรใดๆทั้งสิ้น

คิมซองกยู รับบทเป็น คังอินอุค

นักเปียโนหนุ่มที่เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความสามารถทางด้านดนตรีและศิลปะชั้นเลิศ แต่ผลงานของเขาก็ยังไม่ได้รับการยอมรับในคนหมู่มาก ถึงแม้ว่าดูเหมือนจะเป็นคนสุภาพและเข้ากับคนง่าย แต่ส่วนลึกแล้วเขามีความวิตกกังวลว่าจะสูญเสียทุกอย่างไปในเพียงพริบตาเดียว จึงทำให้เขาเป็นห่วงไปซะทุกอย่างแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยก็ตาม

ติดตามรับชม ซีรี่ย์เกาหลี A PIECE OF YOUR MIND (2020) ได้ที่ ดูซีรี่ย์เกาหลี

Tell Me What You Saw : นั่งสืบในความมืด

เรื่องย่อ
โลกของ โอฮยอนแจ (รับบทโดย จางฮยอก ผลงาน : Voice / My Country / Fated to Love You) มืดมิด เพราะอุบัติเหตุเมื่อ 5 ปีก่อน นอกจากการสูญเสียคู่หมั้นไปต่อหน้าต่อตา เขายังสูญเสียความสามารถในการเดินและการมองเห็น หลังจากนั้น โอฮยอนแจ ที่เคยเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะโปรไฟล์เลอร์ที่ช่วยเหลือในการจับคนร้ายในคดีมากมาย ก็หายไปจากสังคม ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าเขายังมีชีวิตหรือตายไปแล้ว นอกจาก ฮวังฮายอง (รับบทโดย จินซอยอน ผลงาน : Shine or Go Crazy / Eve’s Love) เพื่อนตำรวจของเขา ฮยอนแจ ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว ห่างไกล แต่ยังคงติดตามเรื่องราวภายนอก โดยรับรู้เรื่องราวผ่านการฟังเสียงมากมาย จากการลอบเข้าไปในระบบสัญญาณเสียงต่างๆ ที่เขายังต้องติดตามโลกภายนอกนั้น มีเหตุผล…

ชาซูยอง (รับบทโย ชเวซูยอง ผลงาน : The Spring of My Life / Police Unit 38 / Man Who Sets The Table) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในเมืองชนบท เธอมีความสามารถพิเศษในการจดจำภาพที่เห็นละเอียดได้ราวภาพถ่าย ด้วยความสามารถพิเศษนี้ ทำให้เธอ เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในทีมสืบสวนคดีฆาตกรรมที่เธอเป็นเจ้าหน้าที่คนแรกที่ไปถึงที่เกิดเหตุ แม้ความสามารถของเธอจะยังเป็นที่กังขา แต่เมื่อได้ทำงานร่วมกับหัวหน้าฮวัง และด้วยความช่วยเหลือของฮยอนแจ เธอก็สามารถจับตัวคนร้าย และช่วยเหลือเหยื่อได้

แต่เรื่องกลับไม่จบง่ายๆ เพราะนอกจากคดีนี้ จะเป็นเพียงการลอกเลียนแบบของชายสติไม่สมประกอบ ที่พยายามเลียนแบบ ฆาตกรลูกอมมิ้นท์ที่หลายคนพยายามจะเชื่อว่าตายไปแล้ว ฆาตกรที่เป็นเหตุของความสูญเสียทั้งหมดของฮยอนแจ ฆาตกรที่เขาสงสัยและตามหามาตลอด ชายที่เลียนแบบการฆาตกรรม ถูกฆาตกรรมระหว่างถูกกักตัวเพื่อทำการสอบสวน และในปากของเขา ทีมนิติเวช พบลูกอมมิ้นท์ หรือ “คนนั้น” จะยังอยู่ หรือนี่จะเป็นเพียงอีกการลอกเลียนแบบ

ซูยอง จะใช้ความสามารถในการจดจำของเธอ ถ่ายทอดสิ่งที่เธอเห็นแก่ฮยอนแจ เป็นดวงตาของเขา เพื่อให้เขากลับมาทำหน้าที่สุดยอดโปรไฟล์เลอร์ และช่วยให้เขาจับกุม “คนนั้น” ได้หรือไม่… การฆาตกรรมต่อเนื่องที่โหดร้าย จะมีใครไปรายต่อไป

นักแสดงที่รับบทหนักในเรื่องนี้ และต้องออกวิ่งแทนเฮียของเรา ก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นสาวไอดอลนักแสดงอีกคนที่เราคุ้นคยกันดีอย่าง ชเวซูยอง ซึ่งเรื่องนี้นับได้ว่าเป็นผลงานสายโหดเรื่องแรกของเธอ นอกจากการแสดงที่เป็นธรรมชาติ และดูเป็นหญิงสาวที่ธรรมดามากๆ (มีความสามรถพิเศษ แต่เป็นตำรวจสาว จากบ้านนอกธรรมดา พร้อมการแต่งหน้าสด แบบสดกว่านี้ก็ปลาในทะเลแล้ว) เธอยังโชว์ความสามารถการใช้ภาษามือ และ ต้องลุยในฉากที่อาจทำให้เจ็บตัวได้หลายฉาก นอกจากนี้ยังมีทีม ที่นำโดยจินซอยุน และเพื่อนตำรวจที่มาช่วยคลายเครียดในบางจังหวะ แล้วนอกจากคนร้ายก็ยังมีตัวละครตำรวจด้วยกัน ที่คอยพยายามขัดขวางการค้นหาความจริงด้วย เรียกได้ว่านอกจากต้องสืบ ยังต้องทำงานให้เร็วกว่า คนที่คอยขัดขวางด้วย… จริงจังแบบไม่ได้พักกันเลย

สนับสนุนโดย Vkvi.net ดูซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ส์ฝรั่ง  ดูหนังออนไลน์ฟรี

Secret forest (Stranger)

นำแสดงโดย โจซึงอู แบดูนา อีจุนฮยอก และ ชินฮเยซอน
ประเภท สืบสวน อาชญากรรม

อัยการฮวังชีม๊ก (รับบทโดย โจซึงอู) เขาได้รับการผ่าตัดสมองมาตั้งแต่เด็กทำให้เขาได้รับผลกระทบต่อร่างกายของเขาคือไร้ความรู้สึก ทำให้เขาดูเป็นคนเยือกเย็นและโดดเดี่ยว วันนึงเขาได้ไปพบศพของพัคมูซองที่ถูกฆาตรกรรมทำให้เขาต้องสืบหาสาเหตุการตายที่ไปเชื่อมโยงการรับสินบนของอัยการในสำนักงานเขาและสำนักงานตำรวจเขาได้พบ ฮันยอจิน (รับบทโดย แบดูนา) และเขาก็ได้ทำงานด้วยกัน โดยการทำงานของเขาทั้งคู่ทำให้เขาต้องพบกับการรับสินบนและเบื้องหลังของสำนักงานอัยการ

ซีรีส์เรื่องนี้เล่าถึงการรับสินบนของสำนักงานอัยการ และการสืบสาเหตุการตายของพัคมูซองที่เชื่อมโยงไปยังสำนักอัยการ โดยจะมีตัวละครที่น่าสงสัยมาเรื่อยๆในทุกตอน และการตายของพัคมูซองเพื่อปกปิดอะไรบ้างอย่างในการรับสินบนของสำนักอัยการ ตอนเปิดเรื่องมา มีคนน่าสงสัยหลายคนมากไม่ว่าจะเป็นลูกชายของพัคมูซองและแม่ของมูซอง นอกจากนั้นก็ยังมีแพะรับผิดในคดีนี้ที่ ฆ่าตัวตายไปแต่ก็ยังไม่กระจ่างถึงสาเหตุการฆ่าตัวตายของเขา และกายองตัวละครใหม่ที่เพิ่มเข้ามาที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการสืบหาคนร้ายตัวจริงและการเชื่อมโยงถึงเบื้องหลังการรับสินบนสาเหตุที่เกิดฆาตรกรรมและการใส่ร้ายกัน

ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราต้องดูละเอียดมาก คือห้ามกด skip เลยมิฉะนั้นอาจจะทำให้พลาดส่วนสำคัญได้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงของนักแสดง หรือ รายละเอียดต่างๆของเรื่อง ที่คนเขียนบทตั้งใจจะถ่ายทอดออกมาให้เห็น เราว่าคนเขียนบทเรื่องนี้เก่งมากที่ตั้งใจจะถ่ายทอด บุคลิกลักษณะของตัวละครและเคมีที่เข้ากันระหว่างพระนางระหว่าง โจซึงอู กับ แบดูนา ซึ่งก็เป็นการคัมแบคมาเล่นละครของทั้งคู่ที่หายไปนานด้วย

ถึงจะเป็นซีรีส์ที่อาจไม่ได้พูดถึงที่ไทยมากนักแต่ก็จัดว่าเป็นซีรีส์แนวสืบสวนเรื่องนึงที่คนเขียนบทใส่รายละเอียดลงไปในแต่ละคนได้ลงตัวมากไม่ว่าจะเป็นบุคลิกลักษณะของพระเอก หรือไม่ก็อัยการในสำนักงานที่ทำให้นึกถึงวลีนี้เลย รู้หน้าไม่รู้ใจแต่อย่างที่บอกเราต้องค่อยๆเก็บรายละเอียดของเรื่องไปเรื่อยๆ

สนับสนุนโดย Vkvi.net ดูซีรี่ย์เกาหลี ซีรี่ส์ฝรั่ง  ดูหนังออนไลน์ฟรี

กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน

Empress Ki กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน ละครอิงประวัติศาสตร์ ที่ได้ ฮาจีวอน มารับบทเป็น กีซึงนัง (จักรพรรดินีกี) หญิงสาวสามัญชนจากอาณาจักรโครยอที่ชีวิตพลิกผันกลายเป็นองค์จักรพรรดินีขององค์จักรพรรดิแห่งแคว้นหยวน ประเทศจีน

เรื่องย่อ

ซึงนังหญิงสาวผู้มีอำนาจสั่นคลอนบัลลังก์ของสองอาณาจักร มีชีวิตในวัยเด็กที่รันทด ต้องหนีการตามล่าเพื่อถูกนำไปขายให้กับแคว้นหยวน ซึงนังจึงได้ปลอมตัวเป็นชายและต่อมาได้กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มรับทำงานทุกอย่าง เพื่อนำเงินที่ได้ไปไถ่ตัวหญิงสาวที่ถูกขายไปยังแคว้นหยวน โชคชะตาทำให้ซึงนังได้พบกับองค์รัชทายาทแห่งโครยอที่ปลอมพระองค์มาสืบเรื่องลับ และโชคชะตาก็ได้เล่นตลกกับซึงนังอีกครั้งเมื่อได้พบกับฮ่องเต้แห่งแคว้นหยวน รักสามเส้านี้จะจบเช่นไร และเส้นทางการขึ้นสู่การเป็นองค์จักรพรรดินีของกีซึงนังจะมีอุปสรรคเพียงใด ติดตามได้ใน ซีรีส์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน

เป็นหนึ่งในหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่เล่นซีรีส์เรื่องไหนก็ขโมยหัวใจของแฟนๆ สำหรับหนุ่ม “จีชางอุค” โดยเฉพาะเมื่อขาต้องมาสวมบทบาท “ฮ่องเต้หยวนฮุ่ยจง” จากซีรีส์ “กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน” ก็ได้ทำให้ชื่อของหนุ่มหน้าหวานคนนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของแฟนซีรีส์กันเป็นแถว ซึ่งถ้าไปย้อนดูผลงานของจีชางอุคแล้วจะรู้เลยว่าผู้ชายคนนี้เข้าถึงทุกคาแรคเตอร์ที่ได้รับ แถมยังเป็นคาแรคเตอร์ที่มีผลต่อหัวใจของสาวๆ ซะด้วย

อีกหนึ่งตัวละครที่มีบทบาทสำคัญจากซีรีส์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน ที่ขาดไปไม่ได้คือ วังยู พระราชาโครยอ ผู้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อดินแดนบ้านเกิดมาโดยตลอด เรื่องราวของ วังยู จากซีรีส์มีความน่าสนใจในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นความฉลาดในการวางแผนรบ การเสียสละความรักเพื่อบ้านเมือง มีวีรกรรมที่สำคัญหลายครั้งในยุคสมัยโครยอ แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่าตัวตนของ วังยู บนหน้าประวัติศาสตร์กลับไม่ได้รับการยืนยันอย่างชัดเจน

ถึงแม้จะจะมีการสันนิษฐานว่าไว้ว่า วังยู คือ “พระเจ้าชุงฮเย” ผู้ครองแคว้นองค์ที่ 4 ของอาณาจักรโครยอ พระองค์มีพระนามเดิมว่า “วังโก” ซึ่งเมื่อเทียบประวัติของพระองค์กับเรื่องราวของ วังยู แล้วมีส่วนที่ตรงกันคือ ได้ขึ้นครองราชสมบัติสองรอบ คือในปีค.ศ. 1330 องค์ชายวังโกยึดอำนาจจากพระเจ้าชุงซุก (พระราชบิดา) ขึ้นเป็นอ๋องเสิ่นหยาง เปลี่ยนพระนามเป็นพระจ้าชุงฮเย แต่ก็ถูกพระเจ้าชุงซุกยึดอำนาจคืนในปีค.ศ. 1332 จนเมื่อพระเจ้าชุงซุกสวรรคต ในปีค.ศ. 1339 พระเจ้าชุงฮเย จึงได้ขึ้นเป็น อ๋องเสิ่นหยาง ผู้นำแห่งโครยออีกครั้ง

แต่ข้อสันนิษฐานนี้ก็ถูกปฏิเสธจากนักวิชาการ เพราะจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า พระเจ้าชุงฮเย ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกับจักรพรรดินีกีแม้แต่น้อย แต่ก็มีบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นเพราะเรื่องราวส่วนที่เป็นความสัมพันธ์ข้ามราชวงศ์นี้ อาจจะกระทบกระเทือนถึงขนบธรรมเนียมราชประเพณีโบราณ ของทั้งสองอาณาจักรคือ ต้าหยวน และโครยอ รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงไม่มีการบันทึกเรื่องราวในส่วนนี้ไว้ในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้

ถึงแม้ว่าในทางประวัติศาสตร์จะไม่อาจระบุได้ว่า วังยู นั้นมีตัวตนหรือไม่ แต่เชื่อว่าในใจของแฟนๆ ซีรีส์แล้ว เรื่องราวความรักและความเสียสละของราชาโครยอคนนี้ จะยังคงความประทับใจที่ยากจะลืม

ในที่สุดความเข้มข้นของซีรีส์ กีซึงนัง ก็เดินทางมาถึงจุดที่เป็นบทสรุปสุดท้าย ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าชีวิตของ “พระสนมกี” มาไกลเกินกว่าที่จะถอนตัวจากการแย่งชิงอำนาจอันสูงส่งเพื่อปลดแอกชาวโครยอ ให้หลุดพ้นจากการที่ต้องตกอยู่ในฐานะเมืองขึ้นของต้าหยวน โดยมีองค์รัชทายาทเป็นสิ่งค้ำยันอำนาจที่ดูเหมือนว่าจะอยู่ในกำมือของพระนางไว้ทั้งหมดในตอนนี้
แต่ถึงจะดูว่าทุกอย่างจะตกอยู่ในการควบคุมของ พระสนมกี หมดแล้วก็ตาม ต้องไม่ลืมว่า “ฮ่องเต้แห่งหยวน” ก็ยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่ แม้ในขณะนี้จะดูเป็นผู้ไร้ความสามารถ และไร้ผู้สนับสนุนที่แท้จริง…แต่คนเราเมื่อสูญเสียไปแล้วทุกอย่าง ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกังวลอีกต่อไป เหมือนกับฮ่องเต้หยวนในยามนี้ ที่สูญเสียทั้งความรักและอำนาจมาโดยตลอด จนไม่มีจะต้องห่วงอีกต่อไป…หากลุกขึ้นสู้อีกครั้งเพื่อทวงทุกอย่างคืนมา จากคนที่รัก พระสนมกี สุดหัวใจก็อาจจะกลายเป็น “คู่ต่อสู้ที่น่ากลัว” ของพระนางได้เช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่ ฮ่องเต้หยวน จะมองข้ามไม่ได้หากคิดจะชิงอำนาจกลับมา ก็คือ “วังยู” ผู้นำของโครยอที่เป็นเหมือนศัตรูหัวใจของ ฮ่องเต้ มาโดยตลอด และมีความเป็นไปได้สูงที่ วังยู จะให้การสนับสนุนพระสนมกี มากกว่าที่จะสวามิภักดิ์ต่อพระองค์ตามหน้าที่ หากต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลือกข้างขึ้นมาจริงๆ…นี่คือสิ่งที่ทั้ง พระสนมกี และ ฮ่องเต้หยวน จะต้องช่วงชิงกัน หากพระสนมกีเป็นผู้สมหวัง พระนางจะได้ทั้งอำนาจ และโอกาสที่จะสนับสนุนวังยูต่อไป แต่หากฮ่องเต้เป็นฝ่ายมีชัย อำนาจแห่งแคว้นต้าหยวนก็จะกลับคืนสู่คนที่ถูกต้อง และถ้าจะกำจัดคู่แข่งหัวใจอย่างวังยู…ก็คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

สุดท้ายแล้ว…ใครจะเป็นผู้ได้ชัยชนะในอำนาจแห่งราชบัลลังก์หยวน เพื่อพลิกชะตาชีวิตของตนเองและบ้านเมืองในครั้งนี้

ติดตามบทสรุปนี้ได้ในซีรีส์ กีซึงนัง จอมนางสองแผ่นดิน ดูหนังออนไลน์ฟรี

รักข้ามมิติ (W)

ละคร “รักข้ามมิติ (W)” นำเสนอเรื่องราวความรักของสองหนุ่มสาวที่อยู่กันคนละโลก แต่มีเหตุให้ได้มาพบและรักกันอย่างเหลือเชื่อ…

“โอ ยอนจู” เป็นแพทย์ประจำบ้านปี 2 สาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก ณ โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยมยองเซ ทั้งยังเป็นลูกสาวของ “โอ ซองมู” นักสร้างสรรค์เว็บตูน (การ์ตูนออนไลน์) ชื่อดัง ซึ่งมีผลงานอันโดดเด่นคือเว็บตูนเรื่อง “W” ที่มีคนตามอ่านทั้งบ้านทั้งเมือง วันหนึ่งยอนจูไปหาพ่อที่บ้านหลังได้ยินว่าพ่อหายตัวไปขณะกำลังวาดตอนจบของเว็บตูน พอรู้ว่าตอนจบพระเอกถูกฆ่าตายอย่างน่าอนาถซึ่งผิดไปจากความคาดหมายของทุกคน ยอนจูก็รู้สึกตกใจ ทั้งยังรู้สึกแปลกใจเมื่อ “ปาร์ค ซูบง” (ผู้ช่วยพ่อของเธอ) บอกว่าพ่อของเธออยากให้พระเอกโดนฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมมานานแล้ว เมื่อเลื่อนดูภาพต้นฉบับที่หน้าจอมอนิเตอร์ ยอนจูก็พบว่าภาพสุดท้ายที่พ่อเธอวาดเอาไว้ก่อนหายตัวไปคือภาพพระเอกนอนจมกองเลือด โดยมีคนร้ายซึ่งสวมชุดดำและมีฮูดปิดบังใบหน้าถูกวาดแบบเลือนลางอยู่ทางด้านหลังของภาพ

ยอนจูเกรงว่าสาวกสาวๆ ของเว็บตูนเรื่อง “W” อาจล่วงรู้ตอนจบเลยลักพาตัวพ่อไปด้วยความโกรธ เธอจึงบอกให้ซูบงรีบแจ้งตำรวจ เมื่อซูบงออกจากห้องไปแล้วยอนจูก็สำรวจโต๊ะทำงานของพ่อและพบภาพวาด “Saturn Devouring His Son” (วาดโดยจิตรกรชาวสเปน “ฟรานซิสโก โกยา”) ซึ่งเป็นภาพเทพโครนอส (หรือ “โครนัส” ในเทพปกรณัมของกรีก) กลืนกินลูกตัวเองเพราะกลัวถูกลูกชิงอำนาจ ด้านหลังภาพมีข้อความที่พ่อเธอเขียนเอาไว้ว่าเป็นฝ่ายกินยังดีกว่าถูกกิน เมื่อยอนจูอ่านข้อความดังกล่าว ภาพการ์ตูน (พระเอกนอนจมกองเลือด) บนจอมอนิเตอร์ก็เริ่มสั่น ก่อนมีมือลึกลับที่เต็มไปด้วยเลือดดึงตัวเธอเข้าไปในอีกมิติหนึ่งซึ่งเป็นโลกของเว็บตูนเรื่อง “W” ที่พ่อเธอเป็นคนสร้าง และนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับ “คังชอล”

“คังชอล” เป็นคาแรคเตอร์หลัก (พระเอก) ของเว็บตูนเรื่อง “W” เขาเป็นอดีตนักกีฬายิงปืนที่ได้เหรียญทองจากการแข่งขันโอลิมปิกปี 2004 ที่กรุงเอเธนส์ (ขณะนั้นเขามีอายุเพียง 17 ปี) หลังเป็นฮีโร่ของชาติได้เพียงสองปีชีวิตของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อพ่อแม่ น้องชาย และน้องสาวของเขาถูกคนร้ายบุกเข้ามาสังหารถึงในบ้านโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาจึงตกเป็นผู้ต้องสงสัยและต้องติดคุกเพราะปืนที่คนร้ายใช้เป็นปืนของเขา (ปืนที่เขาใช้แข่งขันโอลิมปิก) แถมคนร้ายยังหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับไม่มีตัวตน หลังหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาเขาเคยคิดสั้นฆ่าตัวตายเพราะทำใจรับความสูญเสียไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เปลี่ยนความท้อแท้สิ้นหวังเป็นความมุ่งมั่นในการสืบหาตัวฆาตกรมาลงโทษ ขณะเดียวกันก็เร่งสร้างเนื้อสร้างตัวจนกลายเป็นมหาเศรษฐี ปัจจุบันเขาเป็นประธานบริษัท “เจแอนด์โกลบอล” และยังเป็นเจ้าของสื่ออย่าง “ดับเบิ้ลยู แชนแนล” อีกด้วย (“ดับเบิ้ลยู แชนแนล” มาจากคำว่า Who และ Why คังชอลต้องการสืบว่าฆาตกรที่สังหารคนในครอบครัวตนเป็นใคร ทำไมถึงทำเช่นนั้น เลยผลิตรายการแนวสืบสวนสอบสวน เพื่อให้สามารถสืบหาข้อมูลเชิงลึกได้โดยสะดวก) 

วันหนึ่งคังชอลถูกแทงปางตายและนอนจมกองเลือดบนดาดฟ้าโรงแรม (ที่เขาอาศัยอยู่) โชคดีที่มีหญิงสาวลึกลับคนหนึ่งโผล่มาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ หลังจากนั้นเธอก็หายตัวไปโดยทิ้งไว้เพียงนามบัตรที่ระบุว่าเธอเป็นศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก ชื่อ “โอ ยอนจู” ที่น่าแปลกก็คือ ทั้งโรงพยาบาลและเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุบนนามบัตรล้วนไม่มีอยู่จริง (ในโลกของคังชอล)  ถึงกระนั้นเขาก็พยายามตามหาเธอเพราะเชื่อว่าเธอคือผู้กุมชะตาชีวิตตน

หลังยอนจูถูกดึงเข้าไปในโลกของคังชอล เนื้อหาของเว็บตูนเรื่อง “W” ก็ดำเนินไปตามเหตุการณ์ที่เธอพบเจอโดยที่พ่อของเธอไม่ได้ลงมือวาด แถมยังเผยแพร่บนเว็บไซต์เองแบบเรียลไทม์อีกด้วย และเนื่องจากยอนจูช่วยชีวิตคังชอลเอาไว้ เว็บตูนเรื่อง “W” จึงยังไม่ (ยอม) จบ แถมเรื่องราวยังดำเนินต่อไปด้วยตัวของมันเอง โดยยอนจูกลายเป็นคาแรคเตอร์ใหม่และเป็นตัวดำเนินเรื่องไปโดยปริยาย เมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง (เธอกลับมาอยู่ในห้องทำงานของพ่อดังเดิม  หลังมีข้อความ “โปรดติดตามตอนต่อไป” ปรากฏขึ้นตรงหน้า)  แล้วพบว่าพ่อของเธอ (ซึ่งกลับมาที่บ้านแล้ว) จะเขียนให้คังชอลโดนฆ่าตายอีกครั้ง เธอจึงขอร้องพ่อว่าอย่าฆ่าคังชอลแต่ก็ไม่เป็นผล

เมื่อรู้ว่าพ่อจะทำให้คังชอลถูกฆ่าขณะรักษาอาการบาดเจ็บในโรงพยาบาลฮันกุกซองจิน โดยให้พยาบาลเติมโพแทสเซียมลงไปในน้ำเกลือแทนยาปฏิชีวนะ ยอนจูก็รู้สึกเป็นห่วงและรับไม่ได้เพราะเธอเป็นคนช่วยชีวิตเขาเองกับมือ แต่แล้วอยู่ๆ ยอนจูก็ไปโผล่ในโลกของคังชอลและช่วยชีวิตเขาไว้ได้ทันเวลาอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้คนรอบข้างคังชอลรู้สึกสงสัยในเจตนาและความเป็นมาของยอนจู มีเพียงคังชอลเท่านั้นที่เชื่อใจเธอทั้งๆ ที่เขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอเลย แต่เธอกลับรู้เรื่องของเขาเป็นอย่างดี ทั้งยังรู้ด้วยว่าเขากำลังถูกลอบปองร้าย ยอนจูได้ยินว่าตำรวจกำลังมาที่นี่จึงขอความช่วยเหลือจากคังชอลเพราะเธอไม่สามารถให้การหรือเป็นพยานได้ ทั้งยังบอกคังชอลไม่ได้ว่าเป็นเพราะอะไร (เธอมาจากโลกอื่นเลยไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง) ทำให้คังชอลยิ่งสงสัยหนักขึ้น ถึงกระนั้นเขาก็รู้โดยสัญชาตญาณว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนร้ายและไม่ได้คิดร้ายกับตน

ยอนจูรับปากส่งเดชว่าถ้าคังชอลออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอจะเล่าให้ฟังทุกอย่าง คังชอลจึงสั่งให้ลูกน้องแอบพายอนจูออกจากโรงพยาบาล และให้มือถือเธอเครื่องหนึ่งพลางบอกว่าถ้าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่ตนจะโทรฯ หา หลังจากนั้นยอนจูก็ออกมานั่งที่ป้ายรถเมล์หน้าโรงพยาบาลเพื่อรอเวลาที่จะถูกส่งกลับไปยังโลกของเธอ แต่แล้วอยู่ๆ เข็มบอกเวลาบนนาฬิกาข้อมือของเธอก็หมุนติ้ว หลังจากนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ที่แท้คังชอลโทรฯ มาทวงสัญญาเพราะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลหลังเข้ารับการรักษานาน 2 เดือน (แต่ยอนจูเพิ่งมาโลกของคังชอลได้ราวครึ่งชั่วโมง และมานั่งที่ป้ายรถเมล์แค่ไม่กี่นาที) คังชอลเห็นว่ายอนจูสวมเสื้อผ้าชุดเดิมที่เคยใส่เมื่อสองเดือนก่อน ซ้ำยังเป็นเสื้อแขนยาวทั้งๆ ที่ตอนนี้เป็นหน้าร้อนเลยพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่

ขณะอยู่ในห้องลองเสื้อ ยอนจูต้องการกลับไปยังโลกของเธอจึงพยายามคิดหาวิธีให้เว็บตูนเรื่อง “W” จบตอน พอนึกขึ้นได้ว่าในตอนท้ายของซีรีส์แต่ละตอนมักมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับคาแรคเตอร์หลักเพื่อนำไปสู่เรื่องราวในตอนต่อไป เธอจึงเดินไปตบหน้าคังชอลแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เมื่อเห็นว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลเธอจึงจูบคังชอลต่อหน้าพนักงานและลูกค้าคนอื่นๆ ทันใดนั้นทุกอย่างก็หยุดนิ่งและมีคำว่า “โปรดติดตามตอนต่อไป” ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ เธอจึงวิ่งเข้าไปในห้องลองเสื้อและหายตัวไป เมื่อกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงโดยสวมชุดราคาแพงที่คังชอลซื้อให้  ยอนจูก็พบว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเธอได้กลายเป็นตอนล่าสุดของเว็บตูน และนั่นก็ทำให้พ่อของยอนจูโกรธมาก เขาจึงยุบทีมผู้ช่วยและคิดที่จะวาดตอนจบด้วยตัวเองทั้งหมดเพื่อไม่ให้ความลับรั่วไหลไปถึงหูยอนจู

หลังยอนจูหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา คังชอลก็ขับรถหรูออกจากห้างสรรพสินค้าและมุ่งหน้าไปที่ออฟฟิศตามลำพัง (ที่นั่งข้างคนขับมีเสื้อผ้าชุดเก่าและบัตรประจำตัวแพทย์ของยอนจูวางอยู่) ทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกที่ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนพุ่งตรงมาหาเขา (ในตอนนั้นพ่อยอนจูกำลังวาดภาพรถสปอร์ตของคังชอลชนประสานงากับรถบรรทุก) ก่อนที่รถทั้งสองคันจะพุ่งเข้าหากัน ทุกอย่างรอบตัวคังชอลกลับหยุดนิ่งราวกับมีคนกดปุ่มหยุดชั่วคราว เขาจึงรีบหักพวงมาลัยหลบให้พ้นทาง หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับคืนสู่สภาพปกติและไม่เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด พ่อยอนจูเห็นภาพอุบัติเหตุที่ตัวเองวาดค่อยๆ เลือนหายไป ทั้งยังไม่สามารถแก้ไขหรือวาดใหม่ได้ก็รู้สึกตกใจ คังชอลรู้สึกได้ว่าอุบัติเหตุในครั้งนี้เหมือนมีคนจงใจทำให้เกิดขึ้น เขาจึงแหงนหน้ามองฟ้า (มองพ่อยอนจู) พลางถามด้วยสีหน้าท่าทางเอาเรื่องว่า “คุณเป็นใคร” พ่อยอนจูเห็นภาพและข้อความดังกล่าวจากจอมอนิเตอร์แล้วถึงกับช็อค หลังจากนั้นเขาก็หายตัวไปพร้อมคอมพิวเตอร์

ยอนจูมาบ้านพ่อและอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้ซูบงฟัง แม้จะยากทำใจแต่หลังวิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วเขาก็เชื่อเธอในที่สุด เขายังบอกเธอด้วยว่าวันนี้พ่อของเธอจะเขียนตอนจบอีกครั้งและคงทำให้คังชอลตายตอนจบตามที่ตั้งใจเอาไว้ ที่พ่อเธอหายตัวไปคงเป็นเพราะไม่อยากโดนรบกวน ดังนั้น เขาต้องฆ่าคังชอลอีกครั้งแน่ๆ ยอนจูอยากรู้สาเหตุและแรงจูงใจของพ่อเลยไล่ดูเอกสารอ้างอิงเกี่ยวกับเว็บตูนเรื่อง “W” โดยดูไฟล์ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งเป็นปีที่พ่อเธอเขียนให้คังชอลกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำฮัน (พ่อเธอเขียนเว็บตูนเรื่องนี้มา 7 ปีแล้ว)  ปรากฏว่าปีนั้นพ่อกับแม่ของเธอแยกทางกันแล้วแม่พาเธอไปอยู่ด้วย พ่อของเธอทั้งเครียดและเสียใจมากจนไม่อาจเขียนเว็บตูนเรื่อง “W” ได้อีกต่อไป เขาจึงเขียนให้คังชอลกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำฮันฆ่าตัวตายเพื่อจบเรื่อง เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเขาก็รู้สึกตกใจที่เห็นภาพคังชอลใช้มือข้างหนึ่งเกาะราวสะพานเอาไว้ทั้งๆ ที่เมื่อคืนเขาวาดให้คังชอลกระโดดลงแม่น้ำไปแล้ว ถึงจะรู้สึกสับสนและคิดว่าตนดื่มหนักจนหลงลืมแต่เขารู้สึกว่านี่คือการบอกเป็นนัยๆ ให้ลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เขาจึงยอมให้คังชอลมีชีวิตอยู่ต่อไป หลังจากนั้นเว็บตูนเรื่อง “W” ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม

แต่ระยะหลังเริ่มเกิดเรื่องประหลาดเมื่อเนื้อหาและภาพที่พ่อยอนจูวาดเริ่มไม่เป็นดังตั้งใจ ดูเหมือนว่าคังชอลจะมีชีวิตและมีความคิดเป็นของตนเองจึงไม่ยอมปล่อยให้เรื่องราวเป็นไปตามที่พ่อยอนจูเขียน ทำให้ภาพที่พ่อยอนจูวาดเองกับมือเปลี่ยนแปลงไปต่อหน้าต่อตา เมื่อมีภาพและเนื้อหา (การ์ตูน) ที่เขาไม่ได้เขียนปรากฏบนจอมอนิเตอร์เองบ่อยครั้ง พ่อยอนจูจึงคิดว่าคังชอลเป็นปีศาจ เขากลัวว่าสักวันคังชอลจะฆ่าตนจึงคิดที่จะฆ่าคังชอลก่อน (เป็นฝ่ายกินดีกว่าถูกกิน) แม้เขาจะพยายามฆ่าคังชอลหลายครั้งแต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ เขาจึงรู้สึกเสียดายที่ไม่ฆ่าคังชอลเสียตั้งแต่ยังมีโอกาส (บนสะพานข้ามแม่น้ำฮัน)

นั่นคือจุดเริ่มต้นและที่มาของเหตุการณ์ต่างๆ ส่วนเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ติดตามชมได้ใน  “รักข้ามมิติ (W)” ดูหนังออนไลน์ฟรี

The Moon Embracing The Sun

The Moon Embracing The Sun ลิขิตรัก ตะวันและจันทรา

เป็นหนึ่งในซีรี่ย์แนวย้อนยุคที่ครองใจใครหลายคน The Moon Embracing The Sun เป็นเรื่องราวความรักและการพลัดพรากระหว่าง พระราชาอีฮวอน (แสดงโดย คิมซูฮยอน) และ วอล (แสดงโดย ฮันกาอิน) ลูกสาวของอดีตธิดาเทพ ที่เนื้อหาเข้มข้นตั้งแต่ต้นจนจบ สร้างความประทับใจ และเรียกน้ำตาคนดูได้ไม่น้อยเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่หยิบมาดูกี่ครั้งก็สนุกทุกครั้งจริงๆ

ละครเรื่องนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักและแผนการอันชั่วร้ายภายในราชสำนัก โดยสมมุติให้เหตุการณ์เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์โชซอน

ขณะที่ อี ยอนอู (รับบทโดย ฮัน กาอิน) ยังอยู่ในครรภ์ มารดาของเธอซึ่งกำลังท้องแก่ใกล้คลอดได้ช่วยเหลือคนของตำหนักเทพ นามว่า “อารี” ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังหลบหนีการไล่ล่า อารีล่วงรู้ว่าเด็กน้อยที่อยู่ในครรภ์มารดามีวาสนาสูงส่ง แต่จะสักวันถูกคนปองร้ายหมายเอาชีวิต เธอจึงให้คำมั่นว่าจะช่วยปกป้องคุ้มครองเด็กคนนีัเพื่อเป็นการตอบแทน แม้ว่าอารีไม่อาจหลบหนีการไล่ล่าได้พ้น แต่เธอยังคงรักษาสัญญาด้วยการฝากฝังเพื่อนรักที่อยู่ในตำหนักเทพ ให้ช่วยปกป้องยอนอูแทนเธอ

เมื่ออายุได้ 13 ปี อี ยอนอู และมารดาเข้าวังมาร่วมงานฉลองความสำเร็จของ “โฮยอม” (พี่ชายยอนอู ) ที่สอบได้คะแนนสูงที่สุด ทำให้ยอนอูได้พบกับองค์รัชทายาท “อีฮวอน” (รับบทโดย คิม ซูฮยอน) โดยบังเอิญ หลังได้พบและพูดคุยกัน องค์รัชทายาททรงรู้สึกประทับใจในความงามและความเฉลียวฉลาดของยอนอู ถึงแม้พระองค์จะไม่เปิดเผยฐานะที่แท้จริงให้ยอนอูทราบ แต่ก็ฝากข้อความปริศนาที่บอกเป็นนัยๆ เอาไว้ให้เธอทายเล่นว่าแท้จริงแล้วพระองค์เป็นใคร

รัชทายาท “อีฮวอน” มีพระเชษฐา (โอรสของอดีตพระราชา) นามว่า องค์ชายยางมยอง ซึ่งภายนอกนอกดูเหมือนมองโลกในแง่ดี และไม่คิดแก่งแย่งชิงดีกับใคร แต่ลึกๆ แล้ว พระองค์ก็มีปมที่ฝังแน่นในใจ ทั้งยังถูกรัศมีขององค์รัชทายาทบดบังมาโดยตลอด และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการแย่งชิงราชบังลังก์ พระองค์จึงออกไปใช้ชีวิตนอกวัง ทำให้ได้พบและตกหลุมรักยอนอู

ในเวลาต่อมา โฮยอม พี่ชายของยอนอูได้เข้าวังมาทำหน้าที่สอนหนังสือให้กับรัชทายาทลีฮวอน เมื่อรัชทายาทรู้ว่ายอนอูเป็นน้องสาวของโฮยอม ก็ตัดสินใจเลือกเธอเป็นพระคู่หมั้น แต่พระพันปีทรงหมายตาหญิงจากครอบครัวอื่นเอาไว้ โดยหวังให้อำนาจของตนให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น จึงพยายามขัดขวางความรักระหว่างองค์รัชทายาทและยอนอูทุกวิถีทาง

ผู้กำกับ: คิม ดูฮุน, อี ซองชุน
ผู้เขียนบท: ชิน ซูวาน
แนวละคร: โรแมนติก แฟนตาซี ย้อนยุค ดูหนังออนไลน์ฟรี

Goblin

มาเริ่มด้วย ซีรี่ย์เกาหลี แนะนํา เรื่องแรก ที่ทำให้หลายคนหลงรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น Goblin เป็นเรื่องราวของ แม่ทัพคิมชิน (แสดงโดย กงยู) ที่ดาบของเขาทำให้กลายมาเป็นก็อบลินที่เป็นอมตะ จะมีเพียงรักแท้เท่านั้นที่จะทำให้เขาพ้นจากคำสาป ซึ่งนั่นทำให้เขาได้พบกับ คิมอึนทัก (แสดงโดย คิมโกอึน) เด็กสาวที่บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าสาวของก็อบลิน และย้ายมาอยู่บ้านเดียวกันจนเกิดเป็นความรักความผูกพันสุดซาบซึ้งที่ใครๆ ต่างประทับใจ เนื้อเรื่องชวนติดตามต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะมีพระเอกสุดฮอตอย่าง กงยู มารับบทนำแล้ว ก็ยังได้ ลีดงอุค พระเอกแถวหน้าของเกาหลีอีกคน มารับบทเป็น ยมทูต อีกด้วย กระแสของเรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ฉากในเรื่องกลายเป็นที่เที่ยวฮิตอย่างเดียว แต่แฟชั่นเสื้อโค้ทยาวและผ้าพันคอสีแดงกลายเป็นไอเทมฮิตอยู่พักหนึ่งเลยล่ะค่ะ