Vagabond

ชื่อเรื่อง : Vagabond (배가본드)
แนว : 
แอคชั่น / ระทึกขวัญ
ผู้กำกับ : 
ยูอินชิก (ผลงานก่อนหน้า “Romantic Doctor, Teacher Kim”)
คนเขียนบท : 
จางยองชอล (ผลงานก่อนหน้า “Monster”) / จองคยองซุน (ผลงานก่อนหน้า “Empress Ki”)
ช่อง : 
SBS
จำนวนตอน : 
32
ช่วงเวลาออนแอร์ : 
20 กันยายน – 9 พฤศจิกายน 2562
วัน-เวลาออนแอร์ : 
ศุกร์-เสาร์ เวลา 22.00 น. (ตามเวลาเกาหลีใต้) ออกอากาศวันละ 2 ตอนตอนละ 35 นาที

Vegabond Poster Vkvi

เรื่องย่อ : บอกเล่าเรื่องราวของ ชาดัลกอน (รับบทโดย อีซึงกิ) ชายที่หาเลี้ยงชีพตัวเองและหลานชายด้วยการเป็นสตั๊นแมน วันหนึ่งหลานชายของเขาได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาเทควันโดเพื่อร่วมแสดงงานอีเว้นท์สำคัญระหว่างประเทศโมร็อกโกกับเกาหลีใต้ แต่ทว่าเกิดเหตุการณ์โศกนาฏกรรมเครื่องบินตกขึ้นระหว่างเดินทาง ทำให้เขาสูญเสียหลานชายผู้เป็นแก้วตาดวงใจไป เหตุการณ์นี้ทำให้ชีวิตของชาดัลกอนเปลี่ยนไปตลอดกาล หลังจากที่เขาพบว่าเหตุการณ์เครื่องบินตกไม่ใช่แค่อุบัติเหตุธรรมดา แต่ว่าเป็นการที่มีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง เขาพยายามค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ ซึ่งเกี่ยวพันกับการคอร์รัปชั่นระดับชาติ

          เขาได้พบกับ โกแฮรี ( รับบทโดย แบซูจี ) พนักงานฝึกหัดของสถานทูตโมร็อกโก ซึ่งแท้ที่จริงแล้วเธอเป็นสายลับของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ การพบกันของเขาทั้งคู่ กับการค้นหาความจริงที่เหตุการณ์เครื่องบินตกเป็นเพียงแค่ภูเขาน้ำแข็งที่โผล่พ้นน้ำ

Vagabond Character Vkvi

          ความน่าสนใจของซีรีส์นี้เริ่มที่ 2 ดารานำนั้น เป็นการกลับมาร่วมงานกันของนักแสดงชั้นแนวหน้าของเอเชียที่มีแฟนติดตามเยอะมาก ๆ อย่าง ลีซึงกิ(Lee Seung-Gi) กับ แบซูจี (Bae Suzy) นับตั้งแต่ซีรีส์ย้อนยุคเรื่อง Gu Family Book คังชิ คัมภีร์ตระกูลจิ้งจอก เมื่อ 6 ปีก่อน ซึ่งทั้งคู่ก็มีแฟนติดตามจากที่ทั้งสองเป็นศิลปินที่มีผลงานเพลงดัง และติดตามในฐานะที่เป็นนักแสดงที่มีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย เขาว่าดารานำมีชื่อเสียงก็โกยเรตติ้งไปเป็นกระบุงแล้ว และเพียงเปิดตัวตอนแรกก็สามารถขึ้นไปที่อันดับ 3 เป็นรองแค่ Home for Summer (여름아부탁해) ของช่องใหญ่ KBS และ A Place in the Sun(태양의계절) ของช่อง KBS2 

          ส่วนในด้านทีมงานสร้างทางเน็ตฟลิกซ์ก็ชูว่าเป็นการร่วมงานครั้งที่ 4 ของผู้กำกับ ยูอินชิค (Yu In-Sik) ที่มีผลงานคว้ารางวัลอย่าง Dr. Romantic (นี่ก็มีใน viu) และทีมเขียนบทอย่างจางยองชอล และ จางคยองซุน นอกจากนั้น นี่ยังเป็นโปรดักชันทุ่มทุนที่ถ่ายทำถึง 3 ประเทศคือ เกาหลี โปรตุเกส และโมรอคโค และจัดเต็มทั้งฉากบู๊อัดแน่นร่วมกับวิช่วลเอฟเฟกต์ที่ให้ความรู้สึกระดับหนังโรงเกาหลีเลยทีเดียว

          สิ่งหนึ่งที่พูดได้ คือนี่เป็นหนังแนวสืบสวนแก้ต่างที่มีเบื้องหลังเป็นอาชญากรรรมคอรัปชันในภาครัฐที่โยงใยบริษัทผู้ผลิตอาวุธและคนในรัฐบาล ซึ่งพอฉากหลังมันใหญ่มาก ๆ แบบนี้มันก็เลยยิ่งที่ให้เล่นกับคอนทราสต์ความเล็กจ้อยของตัวเอกได้อย่างดี เพราะพระเอกโคตรธรรมดา เป็นพวกทำอะไรไม่สำเร็จหาความภาคภูมิใจในตัวเองได้ยาก มีความฝันเป็นดาราคิวบู๊แบบ บรูซ ลี แบบเฉินหลง ถึงขนาดคิดชื่อในวงการของตัวเองไว้ว่าง บรูซ ชาน เลยทีเดียว แต่กระนั้นเขาก็แค่พวกฝีมือปลายแถวเป็นตัวประกอบเจ็บตัวที่ไม่รุ่งเอาเสียที จนท้ายสุดเพื่อหลานคนเดียวที่กำลังโตขึ้นมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น เขาเลยต้องลาออกและขับรถแท็กซี่แทน คือคนแบบนี้เองหรือที่กำลังงัดข้อกับอำนาจที่ใหญ่ล้นฟ้าขนาดประกอบอาชญากรรมใหญ่เช่นก่อการร้าย และฆ่าปิดปากได้อย่างไม่มีใครล่วงรู้

          ปัจจุบันตัวซีรีส์ดำเนินมาถึงตอนที่ 8 ถือว่าผ่านมาครึ่งทางแล้ว ยังมีอีก 8 ตอนให้ติดตามดูทุกคืนวันศุกร์และวันเสาร์ จากที่รับชมมาถึง 8 ตอน ก็ต้องบอกให้คะแนนผ่านมาตรฐาน แต่คิดว่าต้องรอดูกันยาว ๆ มันน่าจะมีจุดพลิกหลอกเราอีกแน่ ๆ คอยดูสิ โดยเฉพาะฉากในอนาคตที่เอามาเปิดเรื่องสั้น ๆ ชวนให้ติดตามสงสัย ที่พระเอกเหมือนจะกลายเป็นทหารรับจ้างและอาจจะต้องฆ่านางเอกในต่างประเทศ นี่น่าสนใจมากว่าจากสตันท์แมนธรรมดาจะไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร

แนะนำสำหรับคุณ