แนะนำซีรีย์ 10 เรื่อง ดูจบในวันเดียว จาก NETFLIX รับรองว่าเด็ด

แนะนำ 10 ซีรีย์ ดูจบในวันเดียว จาก NETFLIX รับรองว่าเด็ด

netflix

สมัยนี้คนเรามักชอบอะไรที่สื่อความตรงใจ มีสาระ กระชับ สั้น ง่าย ได้ใจความ ไม่ชอบอะไรที่ยาว ๆ ยืดเยื้อมีแต่น้ำเราเองก็เป็นอีกหนึ่งคนในนั้นเหมือนกัน เชื่อว่าหลาย ๆ คนในตอนนี้ก็เป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดูหนังชื่อดังอย่าง “เน็ตฟลิกซ์” และต้องเจอปัญหา “มีหนังและซีรีย์เต็ม Mylist แต่ไม่รู้จะดูอะไรดี” เหมือนกับที่สาวๆมีปัญหา “เสื้อผ้าเต็มตู้แต่ไม่รู้จะใส่อะไร” นั่นแหละ เราจึงคัด 10 ซีรีย์ ที่มีครบรส สนุก ได้อะไรดี ๆ กับชีวิต หลากหลายแนว แถมยังมีเพียงไม่กี่ตอนดูวันเดียวก็จบ มีตั้งแต่ 3 – 22 ชั่วโมงจบ! มาให้ทุกคนได้ดูเผื่อจะตัดสินใจง่ายขึ้น สำหรับใครที่ซีรีย์เหล่านี้มีอยู่ ใน My list อยู่แล้ว ลองอ่านรีวิวสั้น ๆ จากเราประกอบการตัดสินใจแล้ว ไปดูกันเลย

1. You

ชายหนุ่ม ‘โรคจิตจอมสตอล์กเกอร์’ ในคราบ ‘สุภาพบุรุษผู้สมถะ’ เจ้าของร้านหนังสือผู้มีชีวิตแสนเรียบง่ายผู้ตกหลุมรักสาวนักศึกษาปริญญาโท  และทำให้การพบกันทุกครั้งของพวกเขาช่างดูอบอุ่นโรแมนติกและมีเสน่ห์  
แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น

แนว : ระทึกขวัญ, โรแมนติก, ดราม่า, อาชญากรรม, สร้างจากหนังสือ

เรื่องนี้เราขอแนะนำ เพราะสั้นมากจบใน 8 ตอน การดำเนินเรื่องเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่น่าเบื่อ  น่าติดตาม ส่วนตัวเราเองดูจบภายในวันเดียวเลย  ที่น่าสนใจก็คือซีรีย์เรื่องนี้เล่าเรื่องในมุมของผู้สตอล์กเกอร์เอง  น่าแปลกที่เรื่องนี้สามารถปูให้เราเข้าใจตัวละครและกลายเป็นว่าเอาใจช่วยคนโรคจิตตามไปด้วยซะอย่างงั้น นอกจากเรื่องจะมีครบรสแล้ว ภาพก็ยังสวยอีกด้วย แต่เรื่องนี้อาจจะ ‘ไม่ระทึกขวัญระดับมาก’ ไม่ค่อยมีฉากตุ้งแช่ให้เราตกใจ เพราะเรื่องจะค่อยๆ เล่าไปตามเสต็ป ดูจบแล้วรู้สึกระวังตัวขึ้นเยอะเลย เอาเป็นว่าลองไปติดตามกันดู

2. Sex education

จบภายใน 8 ตอน ( 7 ชั่วโมงเบาๆ ) ลูกชายของนักบำบัดทางเพศ ‘โอทิส’ ร่วมมือกับสาวขาโหดสุดคูล ‘ไวลี่ย์’  เปิดให้บริการบำบัดทางเพศ แก่เด็ก ๆ ในโรงเรียนจนกระทั่งโด่งดังมีชื่อเสียงในวงการนี้  แต่ความลับคือตัวเขายังไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องเพศของตัวเองจริง ๆ สักทีนั่นแหละ

แนว : ชีวิตวัยรุ่น, ดราม่า, คอมเมดี

สำหรับเรื่องนี้เป็นกระแสดังอยู่พักใหญ่เลยเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยิน แน่นอนชื่อเรื่องก็บอกอยู่แล้วว่าจะต้องมีฉากติดเรทในเรื่องส่วนตัวเราชอบเรื่องนี้ตรงที่สอนปัญหาเรื่องเพศได้อย่างตรงไปตรงมาดี เพราะจริง ๆ แล้วเรื่องเพศก็เป็นเรื่องธรรมชาติ   และเรื่องนี้ครบรสจริง ๆ ทั้ง โรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า อบอุ่นหัวใจ (ฉากดราม่าเราน้ำตาไหลตาม) ดูจบแล้วรู้สึกได้สาระ ชอบคาแรกเตอร์ตัวละครทุกตัวในเรื่อง
พระเอกไม่ใช่คนหล่อหรือคนเด่นดังในโรงเรียนออกแนวลูซเซอร์นิด ๆ นางเอกไม่ใช่คนสวยแบบแก๊งค์นางฟ้าออกแนวพังก์ ๆ โหด ๆ และที่เราชอบอีกอย่างก็คือ ทุกตัวละครมีการปูพื้นหลังให้เห็นคร่าว ๆ ได้ดีทำให้เราชอบทุกตัวละครเลยโดยเฉพาะเรื่องของเพื่อนสนิทพระเอก โทนสีของเรื่อง ออกแนว 90 ใครชอบเสพภาพเสพสีสวย ๆ และชอบหนังครบทุกอารมณ์  พลาดไม่ได้

3. Insatiable

เมื่อชีวิตของสาวร่างใหญ่ที่ถูกบูลลี่ในช่วงชีวิตไฮสคูลมาถึงจุดพลิกผัน เมื่อเธอตื่นมาแล้วพบว่าเธอกลายเป็นสาวฮ็อต ผอมเพรียวและสวยมาก!  เธอจึงตัดสินใจตามแก้แค้นคนที่เคยกลั่นแกล้งเธอและเริ่มก้าวเดินในเส้นทางการประกวดนางงาม

แนว : คอมเมดี้ , ดราม่า , ชีวิตวัยรุ่น

มาดูซีรีย์เบาสมอง แนว mean girlในไฮสคูล ของสาว ๆ ตัวร้ายกันบ้าง  เรื่องนี้ค่อนข้างเบาสมองจริง ๆ ค่ะ ออกแนวตลกดูแล้วไม่เครียด แต่ก็ใช่ว่าจะไร้สาระซะทีเดียวนะคะ มีเรื่องของ ความสัมพันธ์ของเพื่อนและครอบครัวแฝง รวมถึงความรักกุ๊กกิ๊ก และ LGBT แฝงอยู่ด้วย สำหรับใครที่หาอะไรไว้คลายเครียด ดูเรื่องนี้เลย

4. The end of the fucking world

หนุ่มผู้มีปัญหาทางจิต และ สาวเจ้าแห่งการขวางโลก ตัดสินใจออกเดินทางด้วยกันอย่างไม่สนใจ โลกและสิ่งที่ทิ้งไว้  ในในตอนแรกเขาเองมีความคิดที่ ‘ฆ่า’ เธอ แต่อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปเมื่อทั้งคู่เริ่มออกเดินทางไปด้วยกัน

แนว : ชีวิตวัยรุ่น , ดราม่า ,โรแมนติก

เป็นซีรีย์ที่ แปลก  ดาร์ก ดีค่ะ หลุดกรอบซีรีย์หนุ่มสาวรักวัยรุ่นใส ๆ ในอุดมคติไปมากเลย   ออกแนวเสียดสีตลกร้าย หน้าตาย! และจิกกัดนิดหน่อย คาแรกเตอร์ของพระนางก็แปลกดี แต่เมื่ออยู่ด้วยกันแล้ว เคมีลงตัวมาก ๆ โทนสีสวยอีกแล้วเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องที่เราแนะนำ สำหรับคนชอบดูอะไรแนวอินดี้

5. Stranger things

เมื่อเด็กชายคนหนึ่งหายตัวไปอย่างลึกลับ  เพื่อน ๆ  และครอบครัวของเขาต่างช่วยกันออกค้นหา ‘ความจริง’ และเชื่อว่าเขายังมีชีวิตอยู่แต่อาจอยู่ในโลกอื่น ความลึกลับ เรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้น นั้นเกิดจากอะไร และ ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้กันแน่ ?

แนว : ชีวิตวัยรุ่น , ระทึกขวัญ , สยองขวัญ  , ไซไฟ-แฟนตาซี , คอมเมดี้ , ดราม่า  (หลายแนวเลย)

ซีรีย์ที่เต็มไปด้วย สิ่งแปลก ๆ สมกับชื่อ Stranger  thing เลย สำหรับเรื่องนี้ค่อนข้างรวมหลายแนวไว้ในเรื่องเดียวกัน ตัวละครหลักในเรื่องเป็นกลุ่มเด็ก ๆ ที่หัวใจไม่เล็กเหมือนตัว ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมีเรื่องของมิตรภาพ ครอบครัว และความรักสอดแทรกไปด้วย เมื่อดูแล้วก็ติดค่ะทีแรกเราคิดว่าจะลองดูแค่ตอนเดียว แต่ด้วยความที่เรื่องสนุกจริง  ๆ ทำให้เราติดตามไปจนจบซีซั่น 2 บรรยากาศและโทนสีในเรื่องให้อารมณ์ ลึกลับน่ากลัว น่าค้นหา ต้องลองไปดู

6. Kingdom

6 ตอน มีภาคต่อแน่นอน! ( 6 ชั่วโมง ) มีเรื่องราวแปลก ๆ เกิดขึ้น มีคนหายตัวเข้าไปในวังและไม่ได้กลับออกมาทีละคน และยังมีข่าวว่าองค์จักรพรรดิป่วยเป็นโรคร้าย ซึ่งมีแต่เพียงแค่พระมเหสีและขุนนางชั้นใหญ่เท่านั้นที่รู้  แม้แต่ตัวองครัชทายาทเองยังไม่รู้ความจริงว่าองค์จักรพรรดิยังมีชีวิตอยู่หรือไม่  ประกอบกับเกิดเรื่องวุ่นวายมีโรคร้ายที่ทำให้คนตายแล้วฟื้นระบาดขึ้นทั่วเมือง

แนว : ย้อนยุค , ระทึกขวัญ , การเมือง

ซอมบี้เกาหลีย้อนยุค? ถือว่าเรื่องนี้เป็นซีรีย์ที่ค่อนข้างแหวกแนว เพราะไม่ค่อยมีใครทำมาก่อน เราคิดว่าน่าสนใจมาก เรื่องนี้เลือกเล่าเรื่องได้แปลกดีแถมยังเหมือนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และสภาพบ้านเมืองของชาวเกาหลีผ่านการดูซีรีย์  ปมของเรื่องค่อย ๆ เฉลยไปเรื่อย กำลังถึงจุดพีคเลยตัดจบซะงั้นเสียดายที่สั้นไปหน่อยแต่ได้ข่าวมาว่ามีภาคต่อแน่นอนค่ะ บอกเลยว่าสนุกและน่าติดตามมาก

7. Black mirror

ทุกเรื่อง จบใน 1 ตอน   ( 22 ชั่วโมง หากใครอยากดูแบบมาราธอน ) มีทั้งหมด 5 ซีซั่น  22 เรื่องแต่ละเรื่องไม่ได้เกี่ยวกัน รวมหนังสั้นจบ 1 ตอน เรื่องราวเกี่ยวกับ ผลกระทบจากเทคโนโลยีต่อชีวิตคน

แนว : ดราม่า , ระทึกขวัญ , ไซไฟแฟนตาซี

ซีรีย์ Black mirrorนั้นเราปลื้มมาก เพราะคอนเซ็ปและเรื่องราวที่เล่าแต่ละเรื่องนั้นดีแตกต่างกันไป แฝงการเสียดสีจิกกัดและสะท้อนสังคมทั้งข้อดีและข้อเสียจากเทคโนโลยี เช่น จะเป็นอย่างไรหากย้อนดูความทรงจำทั้งหมดของเราได้ ? จะเป็นยังไงหากเราอัพโหลดตัวเองเข้าไปใน icould จะเป็นยังไงหากชีวิตเราผูกติดอยู่กับฐานะและสังคมทางโซเชียล จะเป็นยังไงหากเราสามารถทำทุกอย่างได้ในเกมเสมือนจริง มีหลายเรื่องราวหลายรสหลายอารมณ์ให้ข้อคิดดีและตีความได้หลากหลายจริงๆ สำหรับซีรีย์นี้ภาพสวย เพลงประกอบเพราะได้อารมณ์ (เราชอบตรงนี้มา) และยังได้นักแสดงดี ๆ หลายคนมาร่วมแสดงด้วย

8. Love death robots

มีทั้งหมด 18 เรื่องเรื่องละ 10-15 นาทีเท่านั้นเอง ( 3 ชั่วโมงครึ่ง ) เรื่องสั้นของเหล่าหุ่นยนต์ และ โลกแห่งเทคโนโลยี ที่เล่าผ่านการ์ตูนแอนนิเมชั่น  พอดูแล้วพบว่านี่ไม่ใช่แค่การ์ตูนสำหรับเด็ก

แนว : ไซไฟแฟนตาซี, แอ็คชั่นและผจญภัย, ระทึกขวัญ, สยองขวัญ

แอนนิเมชั่นแต่ละตอนนี่เสียดสีสังคมหลายประเด็นเลยแอบแทรกความคอมเมดี้ลงไปเพราะเป็นการ์ตูน ที่สำคัญคือภาพสวยลายเส้นดีงานละเอียดมาก แต่ละเรื่องก็มีความแตกต่างหลากหลายสนุกอีกต่างหากเห็นชื่อแนวของซีรีย์แล้วก็รู้สึกว่าจริงๆ ก็ไม่ได้ระทึกขวัญน่ากลัวขนาดนั้น ส่วนตัวตอนที่เราชอบคือ ตอน พยานค่ะ  เล่นกับการวนลูปได้สนุกดี เอาเป็นภาพรวมว่าดีมากค่ะต้องตามไปดูกันนะ

11 ตอน จบ 1ซีซั่น ( 9 ชั่วโมง แอคชั่นมันส์ๆ ) เรื่องราวจุดเริ่มต้นของการรวมตัวของTeen titan เหล่าฮีโร่ที่เคยโลดแล่นปราบเหล่าร้ายในการ์ตูนวัยเด็กจากค่าย DC ตอนนี้ได้ถูกนำมาเล่าเรื่องเป็นซีรีย์แล้ว ในซีซั่นนี้จะเล่าที่มาของฮีโร่แต่ละคน  นักสืบดิคเกรย์สันหรือโรบิน  สาวผู้มีพลังซาตานอย่างเรเชลหรือเรเวน สาวจากต่างดาวหรือสตาร์ไฟร์และ ชายหนุ่มผู้กลายร่างเป็นสัตว์ร่างกายสีเขียวการ์

แนว  : แอคชั่นผจญภัย , อาชญากรรม , ซีรีย์จากหนังสือการ์ตูน

สาวก DC จะต้องหวีดให้กับซีรีย์เรื่องนี้ เหมือนกับว่าถูกสานฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง ในซีรีย์หยิบเรื่องราวมาเล่าได้แตกต่างจากการ์ตูนไปมากพอสมควรแต่ก็ยังใส่รายละเอียดเค้าโครงเดิมอยู่บ้างทำให้รู้สึกว่าเนื้อเรื่องดูโตขึ้น เหมาะกับการทำเป็นซีรีย์มาก ๆ  และยังเพิ่มความน่าสนใจโดยปูพื้นหลังให้กับคาแรกเตอร์ของแต่ละตัวได้อย่างดีเลยทีเดียว  ในเรื่องนี้พระเอกอย่างโรบิน งานดีได้ใจเราไปมาก ๆ แต่ที่ชอบที่สุดคือ สตาร์ไฟร์ ที่มาในลุคสาวผิวสีสุดแซ่บ  ตัวละครนี้อาจโดนกระแสลบจากหลาย ๆ ทาง แต่ส่วนตัวเราชอบมากคิดว่าเธอเป็นตัวละครที่โดดเด่นและสร้างสีสันในเรื่องได้มาก  แนะนำให้ไปดูค่ะสานฝันวัยเด็กให้เป็นจริงกัน

10.The haunting of hill house

10 ตอนจบ  ( 10 ชั่วโมง ) ใครใจแข็งก็ดูให้จบภายในวันเดียวไปเลย แม้เวลาจะผ่านไปจนถึงปัจจุบัน แต่เรื่องราวในอดีตก็ยังคงตามหลอกหลอนพวกเขา  ครอบครัวหนึ่งที่ได้ไปอาศัยอยู่ในบ้านชนหุบเขาที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่ามีผีสิง ความทรงจำอันแสนน่ากลัว ความลับ และความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ยังคงทำให้พวกเขาหวนระลึกถึงอดีต

แนว : ลึกลับ , สยองขวัญ  , ดราม่า , ซีรีย์จากหนังสือ

มาถึงซีรีย์แนวผีๆกันบ้าง เรื่องนี้บอกเลยว่าดูให้จบภายใน 1 วันไม่ได้  ไม่ไหวค่ะหัวใจจะวาย เป็นหนังสยองขวัญที่มีมากกว่าผี ยังแฝงเรื่องของครอบครัวเอาไว้อีกด้วย นอกจากจะกลัวผีแล้วยังซึ้งน้ำตาท่วมอีกด้วยค่ะ บรรยากาศในเรื่องทำออกมาได้ดี รู้สึกว่าน่ากลัว หัวใจเต้นรัว และกดดันอยู่ตลอด ฉากตุ้งแช่ตกใจก็เล่นแรงดีค่ะ หัวใจจะวายจริง ๆ หนังจะเล่าเรื่องแบบตัดสลับเหตุการณ์ระหว่างอดีตแลปัจจุบันไปมา อาจจะงงบ้างนิดหน่อย แต่โดยรวมเรื่องนี้ดีค่ะ เป็นอีกเรื่องที่แนะนำให้ดู

ครบ 10 เรื่องแล้วค่ะ ที่คัดมาให้เลือกกัน หลาย แนว หลายรสหลายอารมณ์กันเลยทีเดียว หากใครมีอยู่ใน Mylist แล้วก็ลองไปเลือกดูกันนะคะ สนุกทุกเรื่องจริงๆ ค่ะ  ปล.การให้คะแนนนั้นมาจากความคิดเห็นและความชอบส่วนตัวของเราเองนะคะ ไม่อยากให้เพื่อนๆเอาไปยึดเป็นเกณฑ์ว่าควรดูหรือไม่ควร  อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปชม และให้คะแนนกันเอง  หวังว่าบทความของเราจะช่วยลดปัญหา ซีรีย์เต็มตู้ แต่ไม่รู้จะดูอะไรกันลงไปบ้าง

ดูบทความเพิ่มเติมได้ที่ : vkvi

แนะนำสำหรับคุณ